ติดต่อลงโฆษณา racingweb@gmail.com

แสดงกระทู้

ส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูกระทู้ทั้งหมดสมาชิกนี้ โปรดทราบว่าคุณสามารถเห็นเฉพาะกระทู้ในพื้นที่ที่คุณเข้าถึงในขณะนี้


ข้อความ - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 4
1
Doctor At Home: ปวดกล้ามเนื้อหลัง (Back strain / Musculotendinous strain)

โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการปวดหลัง พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวเป็นต้นไป

เป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง และมักจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังได้


สาเหตุ

มักเกิดจากการทำงานก้ม ๆ เงย ๆ ยกของหนัก เล่นกีฬา นั่ง ยืน นอน ก้มตัวลงหยิบของ หรือยกของในท่าที่ไม่ถูกต้อง ใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป หรือนอนที่นอนนุ่มเกินไป ทำให้เกิดแรงกดตรงกล้ามเนื้อสันหลังส่วนล่าง กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีอาการแข็งและเกร็งตัว ทำให้เกิดอาการปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง

คนที่อ้วน หรือหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ก็อาจมีอาการปวดหลังได้เช่นกัน


อาการ

ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดตรงกลางหลังส่วนล่าง (ตรงบริเวณกระเบนเหน็บ) ซึ่งอาจเกิดขึ้นฉับพลัน หรือค่อยเป็นทีละน้อย อาการปวดอาจเป็นอยู่ตลอดเวลาหรือปวดเฉพาะในท่าบางท่า (เช่น การก้มตัว การบิดตัวเอี้ยวตัว) การไอ จาม อาจทำให้รู้สึกปวดมากขึ้น

โดยทั่วไปผู้ป่วยจะแข็งแรงดี แขนขาขยับได้เป็นปกติ ไม่มีอาการปวดร้าวลงไปที่ขาและไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร นอกจากทำให้ปวดทรมาน เคลื่อนไหวไม่สะดวก ทำงานลำบาก


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการเป็นหลัก

มักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร

บางรายอาจพบอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลัง และเมื่อกดกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะรู้สึกเจ็บ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตว่ามีสาเหตุจากอะไร แล้วแก้ไขเสีย เช่น ถ้าปวดหลังตอนตื่นนอน ก็อาจเกิดจากที่นอนนุ่มไปหรือนอนเตียงสปริง ก็แก้ไขโดยนอนบนที่แข็งและเรียบแทน

ถ้าปวดหลังตอนเย็น ก็มักจะเกิดจากการนั่งตัวงอตัวเอียง หรือใส่รองเท้าส้นสูง ก็พยายามนั่งให้ถูกท่า หรือเปลี่ยนเป็นรองเท้าธรรมดาแทน

ถ้าอ้วนไป ควรพยายามลดน้ำหนัก

2. ถ้ามีอาการปวดมาก ให้นอนหงายบนพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉากสักครู่หนึ่งก็อาจทุเลาได้ หรือจะใช้ยาหม่องหรือน้ำมันระกำทานวด หรือใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบก็ได้

ถ้าไม่หายก็ให้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล, กลุ่มยาต้านอักเสบที่ไมใช่สเตียรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนก นาโพรเซน)

ผู้ป่วยควรนอนที่นอนแข็ง และหมั่นฝึกกายบริหารให้กล้ามเนื้อหลังแข็งแรง

3. ถ้าเป็นเรื้อรัง หรือมีอาการปวดร้าวลงมาที่ขาหรือชาที่ขา ขาไม่มีแรง หรือน้ำหนักลด อาจเกิดจากสาเหตุอื่น อาจต้องเอกซเรย์และ/หรือตรวจพิเศษอื่น ๆ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ (ตรวจอาการปวดหลัง)

ในกรณีที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยตรวจไม่พบสาเหตุชัดเจน อาจมีสาเหตุจากภาวะวิตกกังวล ความเครียดหรือซึมเศร้า ถ้าผู้ป่วยมีประวัติอาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ ก็จะให้การรักษาภาวะเหล่านี้ร่วมด้วย (ดู "โรควิตกกังวล/โรคกังวลทั่วไป" หรือ "โรคอารมณ์แปรปรวน/โรคซึมเศร้า" เพิ่มเติม)


การดูแลตนเอง

ถ้ามีอาการปวดยอกกล้ามเนื้อหลังเวลาบิดเอี้ยวตัว ก้มตัว หรือหลังตื่นนอน โดยไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ถ้ามีอาการปวดมาก หรือขยับตัวทำให้กล้ามเนื้อหลังเกร็งตัวและปวด ควรนอนพักในท่านอนหงายบนที่นอนแข็งตลอดเวลา เวลาลุกนั่งกินอาหารและเดินเข้าห้องน้ำควรมีคนช่วยพยุงจนกว่าอาการจะทุเลา
    บริหารกล้ามเนื้อหลัง เช่น นอนหงายบนพื้น แล้วใช้เท้าพาดบนเก้าอี้ให้เข่างอเป็นมุมฉาก (ดู "ท่าบริหารขณะมีอาการปวดหลัง" ในหัวข้อ "การรักษาโดยแพทย์" ด้านบน)
    ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ
    ใช้ยาหม่องหรือน้ำมันระกำทานวด     
    ถ้าปวดมากกินยาแก้ปวด-พาราเซตามอล*


ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดร้าวแบบเสียว ๆ หรือชา ๆ มาที่ขา 1-2 ข้าง
    ขาอ่อนแรง หรือเดินลำบาก
    มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่นหรือเป็นสีแดง หรือน้ำหนักลด
    ปวดหลังรุนแรง หรือมีอาการปวดตลอดเวลาจนขยับตัวไม่ได้
    ดูแลตนเอง 2-3 วันแล้วไม่ทุเลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    มีประวัติการแพ้ยา เป็นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือผู้มีโรคตับ โรคไต หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่มีการใช้ยา หรือแพทย์นัดติดตามการรักษาอยู่เป็นประจำ
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวลหรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยา จากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ


การป้องกัน

1. ระวังรักษาอิริยาบถ (ท่านอน ท่านั่ง ท่ายืน ท่ายกของ) ให้ถูกต้อง

2. หมั่นออกกำลังกล้ามเนื้อหลังเป็นประจำ (ดู "ท่าบริหารเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง" ในหัวข้อ "การรักษาโดยแพทย์" ด้านบน)

3. ออกกำลังกายเป็นประจำ และบริหารร่างกายก่อนและหลังออกกำลังกาย

4. หลีกเลี่ยงการนอนบนที่นอนนุ่มเกินไป

5. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป 

6. ลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน


ข้อแนะนำ

1. อาการปวดยอกกล้ามเนื้อหลังแบบนี้เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป ทั้งในหมู่คนที่ใช้แรงงาน ยกหรือแบกของหนัก และในหมู่คนที่ทำงานนั่งโต๊ะนาน ๆ หรือมีการเคลื่อนไหวในอิริยาบถที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งบางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคไต โรคกษัย และซื้อยาชุด ยาแก้กษัย หรือยาแก้โรคไตกินอย่างผิด ๆ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดโทษได้

โดยทั่วไปอาการปวดหลังเนื่องจากกล้ามเนื้อมักจะปวดตรงกลางหลัง (บริเวณกระเบนเหน็บ) ส่วนโรคไตมักจะปวดที่สีข้าง (มักเป็นเพียงข้างเดียว) และอาจมีไข้สูง หนาวสั่น หรือปัสสาวะขุ่นหรือแดงร่วมด้วย

2. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลัง หากสังเกตว่ามีอาการปวดร้าวลงมาที่ขาแบบเสียว ๆ ชา ๆ ข้างหนึ่งข้างใดหรือทั้งสองข้าง ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการปวดตามประสาทขาเนื่องจากรากประสาทถูกกด

3. ผู้ที่มีอายุ 10-30 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย หากมีอาการปวดหลังเรื้อรังทุกวันนานเกิน 3 เดือน ควรปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นโรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง มากกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อหลังหรือปวดยอกหลัง


2
motor show: ฮอนด้า Honda Monkey Z125R Special Edition ปี 2024
113,000 บาท 

ฮอนด้า Honda Monkey Z125R Special Edition ปี 2024
New Honda Monkey Z125R Special Edition รถคัสตอมตัวใหม่ล่าสุดที่ผสานกลิ่นอายความคลาสสิกของยุค 80s มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ?THE LEGACY IS BACK ลิงซ่าส์กลับมาซน? ได้รับแรงบันดาลใจจาก Honda Monkey Z50R ในตำนาน ชูความคลาสสิกด้วยโลโก้ Classic Wing ปีกนกสีทองที่ตัดกับถังน้ำมันสีแดงอย่างลงตัว เข้าคู่กับเบาะสีน้ำเงินสุดแสบที่สะท้อนความซนของรถได้เป็นอย่างดี โดยเปิดรับจองเฉพาะที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 เท่านั้น พร้อมรับหมวกกันน็อคดีไซน์สไตล์วิบากไม่ซ้ำใคร ในราคาแนะนำ 113,000 บาท

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์          Honda
   รุ่น               ฮอนด้า Honda Monkey Z125R Special Edition ปี 2024
   ประเภทรถ       รถขนาดเล็ก
   ปีที่เปิดตัว        2024
   ราคา            113,000 บาท

สเปค
   รูปแบบเกียร์           เกียร์ธรรมดา
   ระบบเกียร์              5 เกียร์ แบบเกียร์วน
   รายละเอียดเครื่องยนต์   SOHC แบบซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์
   ระบบระบายความร้อน     อากาศ
   ระบบสตาร์ท               สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)   123.94 CC
   แบบเครื่องยนต์            4 จังหวะ
   ระบบจุดระเบิด            ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง  เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10), แก๊สโซฮอล์ 91, แก๊สโซฮอล์ E20
   ระบบจ่ายน้ำมัน             หัวฉีด
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)    5.6 ลิตร
   ระบบกันสะเทือน           ล้อหน้า Telescopic fork, ล้อหลัง Swingarm
   ระบบเบรค                  ล้อหน้า ดิสก์เบรก (็Hydrulic Single Disc), ล้อหลัง ดิสก์เบรก (็Hydrulic Single Disc)
   แบบวงล้อ                   แมกซ์
   ขนาดยาง                   ล้อหน้า 120/80-12 65J, ล้อหลัง 130/80-12 69J
   ขนาด (ยาวxกว้างxสูง มม.) 1,711X754X1,028
   น้ำหนักตัวรถ                    103.00 กก.

3
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างขนของอำนาจเจริญ รถหกล้อรับจ้าง รถขนของ

รถรับจ้างขนของอำนาจเจริญ เรามีบริการรับจ้างขนของ ที่หลากหลายและบริการมาอย่างยาวนาน เช่น รถรับจ้างขนย้ายบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ รถกระบะรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ รถสิบล้อรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ รถเทรลเลอร์รับจ้างอำนาจเจริญ และรถประเภทอื่นๆ ไม่ต้องรอนานและหาไม่ยากอีกต่อไปอย่างแน่นอน รถขนของจากเมื่อก่อนจนถึงปัจจุบัน การขนย้ายของในทุกวันนี้ การขยายตัวธุรกิจรถรับจ้างและเศรษฐกิจในจังหวัดก็เริ่มขยายตัวไปอย่างมาก ทำให้เรามีรถรับจ้างขนย้ายที่ให้บริการ จำนวนมากทุกอย่างอยู่ในความดูแลของขนส่ง บริการรถรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ มีรถอีกมากมายอย่างครบถ้วน เพราะเราเข้าใจในงานธุรกิจคุณที่ท่านจะต้องมาใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายประเภทต่างๆ

เราจึงมีการจัดรถขนของชนิดต่างๆ เพื่อนำมาให้บริการ จนกระทั่งตอนนี้เรามีบริการทุกชนิดและรถที่เราให้บริการมีทุกประเภทเพื่อการใช้บริการที่ไม่ต้องลังเล ส่วนการใช้บริการรถรับจ้างของเรานั้น บริการ รถรับจ้างขนย้ายของจังหวัดอำนาจเจริญ  มีงานขนย้ายขนของให้บริการทุกวัน คุณต้องใช้บริการเวลาไหน ก็โทรเข้ามาสั่งจองล่วงหน้าย่อมเป็นการดีที่สุดค่ะ บริการทุกวันบริการแบบไม่มีวันหยุด เมื่อท่านต้องการใช้บริการเราท่านก็สามารถเรียกใช้บริการเราได้ทันทีเมื่อท่านต้องการ แต่ถ้าท่านต้องการแบบด่วนท่านต้องโทรมาล่วงหน้าเพื่อจองประมาณ 4 ชั่วโมง ท่านถึงจะได้รถในวันนี้ ถ้าท่านต้องการซึ่งบริการเราบริการมีความเป็นกันเองให้บริการที่รวดเร็วและเรายังมีพัฒนาการบริการอยู่ตลอดเวลา เน้นคุณภาพในการขนย้ายเป็นหลัก เพื่อให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานที่ดี บริการรถรับจ้างขนของเรามีข้อบกพร่องในเรื่องใดทางเรายินดีที่จะปรับปรุงและพัฒนาในการบริการในครั้งต่อไปเพื่อจะได้ไม่มีข้อบกพร่องในการ ให้บริการท่านในครั้งต่อไป

หากท่านต้องการใช้บริการรถรับจ้างขนของจังหวัดอำนาจเจริญ ขาดตกบกพร่องอย่างวไรต้องขออภัยด้วยนะคะเราจะนำปรับปรุงให้ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอนเราสัญญา เรามีรถให้บริการไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถเครนรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถขนส่งสินค้า รถ 4 ล้อใหญ่รับจ้าง รถรับจ้างขนย้ายทั่วไปและอื่นๆ อีกมากมายให้ท่านได้เลือกใช้บริการ ไม่ว่าท่านต้องการงานขนย้ายที่จะใช้รถรับจ้างอะไรก็ตามไม่ว่าอยู่เขตพื้นที่ไหน ไปเที่ยวไหน เดินทางยังไง ติดต่อเข้ามาที่เราทำก็จะได้รับการบริการอย่างเป็นกันเองและเร็วทันใจอย่างแน่นอน โดยเราจะมีการขนย้ายของให้ท่านทุกรูปแบบ และมี รถรับจ้างขนของ ทุกขนาดให้ท่านได้เลือกใช้บริการ มาใช้บริการเราวันนี้แล้วท่านก็จะติดใจและประทับใจอย่างแน่นอน และต้องขอบคุณทุกความไว้วางใจของคนในจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดต่างๆ ที่มาใช้บริการรถรับจ้างและสนับสนุนงานบริการเรามากกว่า 10 ปี รวมไปจนถึงลูกค้าจังหวัดอื่นๆ  และทั่วประเทศเราต้องขอบคุณท่านเป็นอย่างมากที่ไว้ใจและเชื่อมั่นในการบริการของเรา ขอบคุณค่ะ

สถานที่ ท่องเที่ยวในจังหวัดอำนาจเจริญมีสถานที่เที่ยวที่มากมายที่ทำให้นักท่องเที่ยวติดใจและสนใจเป็นอย่างมาก สนใจทำบุญ เที่ยวโบราณสถานและธรรมชาติ ที่นี่มีแนะนนำมากมายเราอยากให้คุณได้มาสัมผัสกับที่นี่ หากท่านใดต้องการมาเที่ยวชมและสัมผัสความเป็นธรรมชาติเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำดังต่อไปนี้

ประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร
สวนสาธารณะพญาแถน
พุทธอุทยานและพระมงคลมิ่งเมือง
วัดถ้ำแสงเพชร
ศูนย์จำหน่ายหัตถกรรมบ้านคำพระ

 เราให้บริการในการ ขนย้ายบ้าน จาก รถรับจ้างย้ายบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ ขนส่งสินค้าเป็นหลักไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าทางการเกษตร จำพวกผัก ผลไม้ ในทุกช่วงฤดูกาลเราก็มีรถวิ่งขนย้ายให้กับท่านในทุกวัน โดยเราให้บริการทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดกันเลยค่ะ ส่วนราคาในค่าบริการ รถรับจ้างขนของ อำนาจเจริญนั้น ซึ่งเราจะคิดจากระยะทางในการขนส่งในอัตราที่ถูกและย่อมเยา รับรองได้เลยว่าค่าบริการของเราจะถูกกว่าที่อื่นหลายแห่งอย่างแน่นอน เรากล้ารับประกันได้เลยค่ะเพราะบริการเราเป็นหนึ่งและครองใจคนทั้งจังหวัดอำนาจเจริญไปแล้วค่ะ

รถรับจ้างจังหวัดอำนาจเจริญ หายากไหม บอกเลยว่าเรามีทุกจุดบริการรถในทุกจุดคือ

รถรับจ้างขนของอำเภอเมืองอำนาจเจริญ
รถรับจ้างขนของอำเภอชานุมาน
รถรับจ้างขนของอำเภอปทุมราชวงศา
รถรับจ้างขนของอำเภอพนา
รถรับจ้างขนของอำเภอลืออำนาจ
รถรับจ้างขนของอำเภอเสนางคนิคม
รถรับจ้างขนของอำเภอหัวตะพาน

4
ดอกบัวอบแห้ง: D.I.Y. น้ำมันขวดดอกไม้ ตัวช่วยถนอมความสดใสให้ดอกไม้

การได้รับช่อดอกไม้จากใครสักคนถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ นอกจากความสวยงามของดอกไม้แล้วยังแฝงไปด้วยความหมายดีๆ อีกมากมาย แต่ว่านานไปดอกไม้ก็แห้งเหี่ยวและเราก็อาจต้องทิ้ง วันนี้มีวิธีง่ายๆ ที่จะย่อขนาดของดอกไม้และทำให้ดอกไม้อยู่กับเราได้นานขึ้น เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ด้วยการทำน้ำมันขวดดอกไม้ แอบบอกว่าทำง่ายมากกก อุปกรณ์ไม่เยอะ พร้อมแล้วไปลุยกันเลย


น้ำมันขวดดอกไม้ (Herbarium) คืออะไร

ถ้าหากใครได้รับช่อดอกไม้อยู่บ่อยๆ ก็คงจะพบเจอกับปัญหาดอกไม้แห้งและก็ต้องทิ้ง ดอกไม้บางชนิดก็มีราคาแพงและหายากมากในประเทศไทย เมื่อแห้งแล้วสีดอกไม้ก็จะไม่เหมือนเดิม จึงทำให้เราต้องทิ้ง แต่ถ้าหากอยากที่จะเก็บไว้โดยไม่ให้แห้งเหี่ยว น้ำมันขวดดอกไม้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ดี น้ำมันขวดดอกไม้หรือ เฮอร์บาเรียม (Herbarium) คือวิธีการถนอมดอกไม้แบบหนึ่โดยอาจเป็นแบบแห้งหรือทำให้อยู่ในขวดขนาดเล็กหรือใหญ่ที่บรรจุน้ำมันอยู่ก็ได้ ถ้าอยู่ในขวดน้ำมันจะทำให้สีของพืชพรรณที่เราใส่ลงไปในขวดนั้นยังคงสีเดิมหรือเปลี่ยนน้อยที่สุด นอกจากสีจะคงเดิมแล้วความสดใหม่ของดอกไม้ก็ยังคงอยู่ด้วย เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนญี่ปุ่นนิยมมากๆ


ทำน้ำมันขวดดอกไม้มีข้อดีอะไรบ้าง

1. เหมือนมีดอกไม้สดใหม่อยู่ในแจกันตลอดเวลา

อย่างที่เรารู้กันว่าการทำเฮอร์บาเรียนหรือน้ำมันขวดดอกไม้นั้นเป็นการถนอมพืชพรรณหรือดอกไม้แบบเปียกไม่ใช่แบบแห้ง นั่นคือเราสามารถมีดอกไม้ที่สดใหม่และสีเดิมเก็บไว้ได้ตลอดเพราะน้ำมันจะทำให้ดอกไม้ไม่แห้ง ถ้าหากเราตัดแต่งดอกไม้จากช่อใหญ่มาเก็บไว้ก็ต้องมีวันที่แห้งเหี่ยว แต่ถ้าเรานำมาย่อขนาดใส่ขวดโหลและทำน้ำมันขวดดอกไม้เราจะมีดอกไม้สีสดไว้ตั้งโชว์ตลอดเลย วิธีนี้ก็น่าสนใจมากๆ


2. ไม่ใช่แค่ถนอมดอกไม้แต่ถนอมใบไม้ก็ได้

เห็นว่าชื่อน้ำมันขวดดอกไม้แล้วก็ไม่ใช่ว่าถนออมได้แต่ดอกไม้นะ พวกใบไม้เล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถใส่ลงไปในขวดเพื่อตกแต่งเพิ่มเติมได้เหมือนกัน ในทุกวันนี้ก็มีใบไม้ไซซ์เล็กน่ารักและหายากที่ผู้คนนำมาใช้ตกแต่งช่อดอกไม้เยอะมาก ถ้าเราต้องการที่จะถนอมใบไม้เหล่านั้นก็สามารถมิกซ์แอนแมตช์ลงไปในขวดพร้อมกับดอกไม้ได้เช่นกัน


3. ใช้เป็นของขวัญที่ไม่เหมือนใคร

ถ้าการให้ของขวัญใครด้วยช่อดอกไม้และกลัวว่ามันจะต้องเหี่ยวสักวัน ลองเปลี่ยนมาให้เป็นน้ำมันขวดดอกไม้ดูก็ได้ ซื้อดอกไม้มาสัก 2-3 ดอก ไม่ต้องถึงกับช่อใหญ่และมาประดิษฐ์เอง พร้อมตกแต่งขวดให้น่ารัก โดยการแขวนป้ายคำอวยพรเล็กๆ ตรงขวด แค่นี้ก็ถือเป็นไอเดียใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใครแล้ว


วิธีทำน้ำมันขวดดอกไม้

1. เตรียมวัสดุและอุปกรณ์ให้พร้อม

สำหรับวิธีการทำน้ำมันขวดดอกไม้ก็ง่ายมากๆ เพราะมีวัสดุและอุปกรณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีดังนี้

    ขวดแก้วที่มีจุกปิดขนาดต่างๆ ตามที่ต้องการ ควรเป็นขวดใสเพราะว่าจะได้เห็นสีของดอกไม้ชัดเจน
    น้ำมันหรือน้ำมันหอมระเหย (ถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมสามารถเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ)
    ดอกไม้ กิ่งไม้ หรือใบไม้ที่ชอบ ขั้นตอนนี้อาจนำจากช่อดอกไม้ที่มีหรือซื้อดอกไม้ก้านเล็กๆ เพียงไม่กี่ก้านก็ได้ โดยจะเป็นดอกไม้สดใหม่หรือดอกไม้ที่ผ่านมาแล้ว 2-3 วัน ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
    ที่คีบปากแหลมแบบยาวหรือไม้แหลม เพื่อคีบดอกไม้ไปในขวดที่แคบได้อย่างง่ายดาย ถ้าหากไม่มีที่คีบสามารถใช้ไม้แหลมหรือไม้จิ้มฟันก็ได้
    กรรไกรไซซ์เล็ก จะเหมาะสำหรับการตัดแต่งกิ่งดอกไม้ไซซ์เล็กๆ มากกว่าแต่ถ้าหากใครไม่มีก็สามารถใช้กรรไกรธรรดาหรือกรรไกรตัดด้ายได้เช่นกัน


2. นำดอกไม้ใส่ขวด

ขั้นตอนนี้อาจต้องใช้ความพิถีพิถันและความครีเอทิฟและนึกถึงเรื่องของการจัดวางตำแหน่งของดอกไม้หรือใบไม้ โดยเลือกดอกไม้ที่เราจะใช้พร้อมกับตัดแต่งส่วนที่เราต้องการโดยให้มีขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อที่จะคีบลงขวดได้ สำหรับดอกไม้หรือกิ่งไม้ที่มีก้านยาวแนะนำให้ตัดแต่งขนาดที่ไม่สั้นจนเกินไป ถ้าหากสั้นเกินกิ่งไม้จะลอยอยู่ในขวด และควรระวังกิ่งไม้ที่ยาวเกินน้ำมันออกมาด้วย


3. เติมน้ำมันลงในขวดพร้อมปิดฝา

เมื่อเรานำดอกไม้ลงในขวดเสร็จแล้วให้เติมน้ำมันลงในขวดได้เลย โดยค่อยๆ เทน้ำมันลง ในขณะที่เทน้ำมันดอกไม้ในขวดจะยุบลงเล็กน้อยทำให้เรามีพื้นที่ในขวดเพิ่ม ถ้าหากใครที่ต้องการจะเติมดอกไม้หรือกิ่งไม้ก็สามารถเติมได้โดยเทน้ำมันแค่ครึ่งขวดก่อนและเติมกิ่งไม้ลงไป ถ้าหากเติมตอนน้ำมันเต็มขวดแล้วจะทำให้ล้นออกมา เสร็จแล้วปิดฝาพร้อมตกแต่งให้เรียบร้อย แค่นี้ก็ได้น้ำมันขวดดอกไม้น่ารักๆ แล้ว

สำหรับน้ำมันขวดดอกไม้แล้ว ไม่จำเป็นที่จะดอกมีขนาดเล็ก เราสามารถดัดแปลงมาให้ขวดใสขนาดใหญ่เท่ากับขวดไวน์และสามารถตั้งโชว์ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นเป็นการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ขึ้น ครั้งหน้าจะมี D.I.Y อะไรสนุกๆ อีกต้องรอติดตามน้าาา

5
บ้านติดรถไฟฟ้า เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ (THE GENTRY Kaset-nawamin)
เริ่มต้น 25 ลบ. - 45 ลบ. 

เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ (THE GENTRY Kaset-nawamin)
DEFYING GRAVITY เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ ท้าทายข้อกำหนด ด้วยบริบทแห่งแรงดึงดูด เพราะเส้นทางที่คุณเป็นผู้เลือก ไม่จำเป็นต้องตามกระแสสังคม แต่คือ “รสนิยม” ที่จะนำพาสิ่งที่คู่ควร ให้มาเชื่อมโยงกับคุณ สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อน ที่ตอบสนอง UNIQUE LIFESTYLE พร้อมบ่งบอกตัวตนผ่าน วิลล่าหรู โครงการใหม่ ใจกลางเกษตร-นวมินทร์ ให้การใช้ชีวิตได้รายล้อมด้วยสิ่งที่มีคุณสมบัติที่คู่ควรที่สุดสำหรับคุณ

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ         เดอะ เจนทริ เกษตร-นวมินทร์ (THE GENTRY Kaset-nawamin)
 เจ้าของโครงการ    เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น
 แบรนด์ย่อย          เดอะ เจนทริ
 ราคา                เริ่มต้น 25 ลบ. - 45 ลบ. 

 ประเภทบ้าน       บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล     บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ    16 ไร่ 7 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน         57 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด   3 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 360 ถึง 550 ตร.ม.
 จำนวนชั้น           3 ชั้น
 หน้ากว้าง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน   ตั้งแต่ 3 ถึง 5 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ    ตั้งแแต่ 3 ถึง 4 คัน
 สาธารณูปโภค     สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Keycard System, Co-working space

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน        มีนบุรี, หนองจอก, ลาดกระบัง, บึงกุ่ม
 ที่ตั้ง        ซอยโพธิ์แก้ว แยก 4แขวง นวมินทร์ เขต บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

 ขนส่งสาธารณะ            ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง, สถานี(ลาดพร้าว - สำโรง)(ลาดพร้าว 101)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ฟู้ดแลนด์ นวมินทร์
แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส (นวมินทร์)
ชิค รีพับบลิค
เดอะ วอล์ค (เกษตร-นวมินทร์)
คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์
เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
เดอะ คริสตัล
โรงเรียนนานาชาติ NIVA American
โรงเรียนเลิศหล้า เกษตร - นวมินทร์
โรงเรียนนานาชาติ KPIS (กีรพัฒน์)
โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ
โรงเรียนนานาชาติเดอะรีเจนท์
โรงเรียนนานาชาติเคไอเอส
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หัวหมาก
โรงพยาบาลนวเวช
โรงพยาบาลเวชธานี
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา
โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

6

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดแม่ชี เราเป็น โรงงานผลิตโดยตรง
ตัดเย็บปราณีต ทรงสวย เรียบหรู ดูสง่างดงาม
ผลิตจาก ผ้าฝ้ายแท้ 100% เกรดพรีเมียม

ชุดปฏิบัติธรรม ชุดขาวไปวัด ชุดแม่ชี
– ราคาแยกรายชิ้น –
ทอย้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมชั้นดี
พร้อมส่งทุกไซส์
(กรณีสั่งตัดไซส์พิเศษ รอผลิต 7-10 วัน)
จัดส่งฟรี‼ เมื่อลูกค้าโอนชำระ
มีบริการเก็บเงินปลายทาง (+ตัวละ 10.-)

รับตัดชุดขาวไซส์ใหญ่พิเศษ
หมดกังวล หาไซส์ไม่ได้ ทางร้านเป็นโรงงานผลิตโดยตรง
สามารถสั่งตัดชุดได้ตามความต้องการ รอผลิต 7-10 วันทำการ

ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ

สัมผัสประสบการณ์ใหม่
จากผ้าฝ้ายแท้ 100%
 นุ่มสบาย ไม่ร้อน ไม่ระคายคือง
ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรเนื้อผ้า
การตัดเย็บ รวมไปถึงการจัดส่งแบบปกติ
และจัดส่งเร่งด่วน (Kerry EMS Grab)

ชุดขาวปฎิบัติธรรม ชุดขาวหญิง ชุดแม่ชี คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด

ชุดปฎิบัติธรรมชาย คุณภาพ
เน้นคุณภาพใส่ใจทุกขั้นตอน ตัดเย็บงานผ้าฝ้ายคุณภาพ (cotton 100%)
สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อึดอัด


ร้านอริยทรัพย์ ชุดขาวปฏิบัติธรรม
เบอร์มือถือ :  092-926-4142 , 063-289-5356
Facebook : ชุดขาวปฎิบัติธรรม อริยทรัพย์
Instagram : ariyasub.shop
ID Line : @ariyasub (มี@)
เว็บไซด์: https://ariyasub99.com/
สนใจตัดชุดขาวไซซ์พิเศษ ติดต่อมาได้เลยค่ะ







7
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



8
แท็บเล็ต 2024: แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi+Cellular
47,900 บาท 

แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi+Cellular

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            แอปเปิล APPLE iPad Pro11" (2024) (256GB) Wi-Fi+Cellular
   ราคากลาง         47,900 บาท
   จำนวนซิม         1 ซิม
   สี                     Silver, Black
   ความถี่-เครือข่าย
2G ()
3G ()
4G ()
5G ()

   ขนาด-น้ำหนัก                      ยาว 177.5 x กว้าง 249.7 x หนา 5.3 มม., น้ำหนัก 446 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน-ROM    256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด   -
   แบตเตอรี่                            N/A

ชนิดจอ
   ชนิดจอ                         Ultra XDR Retina OLED
   ขนาด-ความละเอียด       11 นิ้ว, 1,668 x 2,420 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                        กล้องหลัง (12 Mpx), กล้องหน้า (12 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                  -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)              Apple M4
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)
   หน่วยความจำ (RAM)               8 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก               -
   ระบบรับส่งข้อความ                   -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต          3G, WiFi, 4G, 5G

9
จัดฟันบางนา: สุขภาพช่องปากไม่ดี เสี่ยงโรคมะเร็งในช่องปาก

เชื่อว่าหลายๆท่านคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า สุขภาพช่องปากไม่ว่าจะเป็นเหงือก ฟัน หรือ ลิ้น ต่างมีความสำคัญในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะ ช่องปากเป็นส่วนสำคัญในการรับประทานอาหาร พูดพูดคุยสนทนา รวมถึงในด้านบุคลิกภาพเบื้องต้นเพื่อเสริมความมั่นใจ และทราบไหมว่าช่องปากยังเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆมากมาย ซึ่งหากว่าไม่ทำความสะอาดแบคทีเรียเหล่านั้นก็อาจจะเกิดการทำลายฟันของท่านได้โดยรวดเร็ว และแค่นั้นยังไม่พอหากว่าท่านไม่ได้รับการรักษาปล่อยทิ้งไว้ อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงมากมาย รวมถึงเป็นหนึ่งในต้นเหตุหลักๆของ “มะเร็งช่องปาก” อีกด้วย

ในวันนี้จะขอพาท่านผู้ชมมาทำความรู้จักกับ มะเร็งช่องปาก ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และ สามารถตรวจเช็คได้อย่างไรบ้าง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


มะเร็งช่องปากคืออะไร ?

มะเร็งช่องปาก หรือ มะเร็งในช่องปาก คือการที่มีก้อนเนื้อร้าย เกิดขึ้นที่บริเวณในช่องปาก โดยจะสามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วน เช่น ริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้นไก่ เพดานปากซึ่งสามารถเกิดได้ทั้งเพดานอ่อนและเพดานแข็ง พื้นปากใต้ลิ้น ต่อมทอนซิล กระดูกขากรรไกร รวมถึงส่วนบนของลำคอ แต่อวัยวะส่วนที่มักพบได้บ่อยว่าเป็นโรคมะเร็งช่องปากก็คือ ลิ้น และ พื้นปากใต้ลิ้น

จากข้อมูลการศึกษาของสถาบันวิจัยทันตกรรมและกะโหลกศีรษะและใบหน้าแห่งชาติ หรือ National institute of Dental and Craniofacial Research ได้มีการระบุไว้ว่า มะเร็งช่องปากนั้นสามารถเป็นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่จากการสำรวจวิจัยอย่างละเอียดจะพบว่า ผู้ชายที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป เป็นโรคมะเร็งในช่องปากมากผู้หญิงถึง 3 เท่า อาจเป็นเพราะผู้ชายมีปัจจัยเสี่ยงที่มากกว่า เช่น การชอบสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการละเลยการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ


สาเหตุของการเป็นมะเร็งในช่องปาก ?

ต้องขอบอกเลยว่าในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก แต่จากการศึกษาวิจัยทำให้ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก เช่น การสูบบุหรี่ พฤติกรรมการรับประทาน รวมถึงสุขภาพช่องปากไม่ดีเรื้อรัง เป็นต้น แต่จริงๆแล้วภาวะเสี่ยงยังมีอีกหลายอย่างมากมายโดยมีดังต่อไปนี้

– การตากแดดเป็นระยะเวลานานๆ มีส่วนในการทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ริมฝีปาก เพราะ ประมาณ 30% ของผู้ป่วยมะเร็งริมฝีปาก มีประวัติการสัมผัสแสงแดดเป็นระยะเวลานาน

– รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัดเป็นประจำ เนื่องจากว่า ความร้อนของอาหารหรือเครื่องดื่มจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องปาก และเมื่อถูกสร้างความระคายเคืองเป็นประจำก็อาจจะส่งผลให้เยื่อบุในช่องปากเกิดเซลล์มะเร็งได้

– การติดเชื้อไวรัสบางชนิดเช่น เชื้อไวรัสเอสพีวี ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับมะเร็งปากมดลูก

– การมีสุขภาพในช่องปากไม่ดี เช่น ฟันผุเรื้อรัง

– เนื้อเยื่อบุในช่องปาก เป็นแผลเรื้อรังจากฟันเก ฟันบิ่น หรือฟันหัก ที่ทำให้เกิดขอบคมบาดเนื้อเยื่อในช่องปากซ้ำๆ ส่งผลให้เกิดแผลเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน

– การใส่ฟันปลอมที่หลวม ก่อให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรัง และมีส่วนในการกักเก็บสะสมสารก่อมะเร็งได้ง่าย

– การกินหรือเคี้ยว หมาก พลู ยาฉุน ยาเส้น

– การรับประทานผักผลไม้ที่น้อยเกินไปทำให้ร่างกายและช่องปากขาดสารอาหารบางชนิด

– สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน


วิธีการตรวจมะเร็งช่องปากเบื้องต้น ด้วยตนเอง ?

ต้องขอบอกเลยว่าท่านสามารถจะตรวจสอบความผิดปกติเบื้องต้นได้ โดยหากว่าพบความผิดปกติของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะต่างๆของช่องปาก เช่น ฝ้าขาว ฝ้าแดง มีก้อนเนื้อในช่องปากหรือลำคอ หรือ เป็นแผลในช่องปากที่ไม่หายใน 3 สัปดาห์ โดยหากว่าพบอาการดังที่กล่าวมาเหล่านี้ ให้ทำการพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยเร็วที่สุด โดยมีวิธีเช็คเบื้องต้นคือ

– ดึงริมฝีปากบนขึ้น เพื่อตรวจดูเยื่อบุส่วนบนและเหงือกด้านนอก

– ยกริมฝีปากบนเพื่อตรวจดูริมฝีปากบน

– ยกริมฝีปากด้านข้าง เพื่อตรวจดูกระพุ้งแก้มและเหงือกด้านใน

– ดึงริมฝีปากด้านล่างลง เพื่อตรวจดูเยื่อบุส่วนล่างและเหงือกด้านนอก

– แหงนหน้าอ้าปากให้กว้างเพื่อตรวจดูเพดานปาก

– อ้าปากให้กว้าง กดลิ้นเพื่อตรวจดู ลิ้นไก่ ต่อมทอนซิล และ เพดานอ่อน

– ยกลิ้นขึ้นเพื่อตรวจดูลิ้นด่านล่าง และพื้นปากใต้ลิ้น

หากว่าพบความผิดปกติไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งก็ตาม ให้รีบเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบ เนื่องจากว่าหากยิ่งทำการรักษาได้รวมเร็วจะยิ่งทำให้การรักษานั้นง่ายขึ้นและปลอดภัยสูงตามไปด้วย

10
บริหารจัดการอาคาร:  หลอดไฟ LED กินไฟน้อยลงแต่สว่างมากขึ้น

บ้านไหนที่ยังใช้หลอดไฟแบบเดิม ๆ อยู่  ขอเชียร์ให้ลองหันไปใช้หลอดไฟ LED กันดูครับ ถึงแม้ว่าราคาตัวหลอดไฟจะสูง แต่หลอดไฟ LED นี้ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่น แถมยังให้ความสว่างที่มากขึ้นอีก ซึ่งเราสามารถประหยัดเงินจากการใช้หลอดไฟ LED ได้ถึง 15 – 80% เลยทีเดียว ถือได้ว่าคุ้มค่า คุ้มราคาจริง ๆ


มาดูเพิ่มเติมกันค่ะ ว่าข้อดี ข้ออื่น ๆ ของหลอดไฟ LED มีอะไรบ้าง

1. หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานยาวนาน

ไม่ต้องเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย เนื่องจากหลอดไฟ LED ให้แสงสว่างโดยการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนในสารกึ่งตัวนำ ไม่มีการเผาไหม้ไส้ของหลอดไฟ จึงไม่เกิดความร้อน ทำให้มีอายุการใช้งานของหลอดไฟ LED ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมอย่างมาก ซึ่งยาวนานถึง 30,000 – 50,000 ชั่วโมง หากซื้อหลอดไฟ LED มา 1 หลอด ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ปีเลย


2. หลอดไฟ LED ช่วยลดความร้อนโดยรวมในบ้านได้

          อุณหภูมิในบ้านเย็นขึ้นได้ หากเลือกใช้หลอดไฟ LED เนื่องจากหลอดไฟ LED มีความร้อนต่ำ ปล่อยความร้อนออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ความร้อนภายในบ้านลดลงไปด้วย อีกทั้งหากเราเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อน ยังสามารถทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานลดลงได้ ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกด้วย


3. หลอดไฟ LED กินไฟน้อย ประหยัดค่าใช้จ่ายมาก

          ถึงตัวหลอดไฟ LED จะมีราคาแพง แต่หากมองระยะยาวแล้วหลอดไฟแบบนี้จะช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากหลอดไฟ LED มีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบายความร้อนได้ดีกว่าหลอดไฟแบบเดิม จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกินไฟน้อยลง ซึ่งปัจจุบันหากใช้หลอดไฟ LED 3 วัตต์ แทนหลอดไส้ 25 วัตต์ จะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 80% เลยทีเดียว


4. หลอดไฟ LED แข็งแรงทนทาน

          หากใช้หลอดไฟธรรมดา เราอาจต้องเปลี่ยนหลอดอยู่บ่อยครั้ง เพราะหลอดขาดบ้าง แก้วด้านนอกของหลอดไฟเปราะแตกบ้าง แต่สำหรับหลอดไฟ LED จะมีคุณภาพมากกว่า เรียกได้ว่าคุ้มค่า สมราคา เนื่องจากตัวหลอดไฟ LED สามารถทนต่อแรงกระเทกได้มากกว่า จึงติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยไม่เกิดผลกระทบหรือความเสียหายตามมา


5. หลอดไฟ LED เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

          หลอดไฟทั่วไปจะมีสารปรอทอยู่ภายใน ซึ่งสารปรอทนี้เป็นมลพิษกับสิ่งแวดล้อม ต้องระมัดระวังในการทิ้งขยะ แต่หากเป็นหลอดไฟ LED จะไม่มีสารพิษ เราสามารถทิ้งถังขยะที่บ้านเราได้อย่างปลอดภัยทั้งกับตัวคุณและสิ่งแวดล้อม



11
Doctor At Home: ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีก (Bird flu/Avian influenza)

ไข้หวัดนก (ไข้หวัดใหญ่สัตว์ปีกก็เรียก) จัดเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 (H5N1) อันเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่จากสัตว์ปีกมาสู่คน พบผู้ป่วยโรคนี้ครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2540 ต่อมาเริ่มพบผู้ป่วยในประเทศเวียดนาม และไทย (เมื่อปลายปี พ.ศ. 2546) ในกัมพูชา อินโดนีเซีย และจีน (เมื่อปี พ.ศ. 2548) อาเซอร์ไบจัน อียิปต์ อิรัก ตุรกี จีบูติ (พ.ศ. 2549) ลาว พม่า ไนจีเรีย ปากีสถาน (พ.ศ. 2550)

ไข้หวัดนกพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และมีความรุนแรง ซึ่งมีอัตราตายสูง


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อไข้หวัดนก ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 เชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มีอยู่ในนกน้ำที่มีการอพยพย้ายถิ่น นกชายทะเล และนกป่า นกเหล่านี้เป็นพาหะของโรค (ติดเชื้อโดยไม่มีอาการเจ็บป่วย) เป็นส่วนใหญ่ แต่จะปล่อยเชื้อออกมาทางน้ำลาย น้ำมูก และมูลนก แพร่ให้นกธรรมชาติ นกบ้าน ฝูงสัตว์ปีกตามฟาร์มและบ้านเรือน เช่น ไก่ ไก่ชน ไก่งวง ไก่ต๊อก เป็ด ห่าน เป็นต้น ทำให้เกิดโรคระบาดและการตายอย่างรวดเร็วของฝูงสัตว์ปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่ที่เลี้ยงตามบ้านและฟาร์มที่เป็นโรงเรือนเปิด ส่วนเป็ดในท้องทุ่งเมื่อมีการติดเชื้อชนิดนี้ส่วนหนึ่งจะป่วยและตาย แต่ส่วนหนึ่งจะเป็นพาหะ (ไม่มีอาการเจ็บป่วย) ซึ่งสามารถแพร่เชื้อให้สัตว์ปีกอื่น ๆ ต่อไป

นอกจากนี้ยังพบว่า เชื้อไข้หวัดนกยังสามารถติดต่อไปยังสัตว์ประเภทเสือ สุนัข แมว และหมู ทำให้สัตว์เหล่านี้ป่วยและตายได้ สำหรับแมวพบว่าสามารถติดต่อจากแมวสู่แมวด้วยกันเองได้อีกด้วย

การติดเชื้อจากสัตว์ปีกมาสู่คน สัตว์ปีกที่ป่วยจะมีเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย น้ำตา และมูลสัตว์ ซึ่งจะปนเปื้อนอยู่ตามตัวของสัตว์ปีกและสิ่งแวดล้อม คนเราสามารถติดเชื้อไข้หวัดนกได้ 2 ทาง ได้แก่

1. การสัมผัสกับสัตว์ปีก (โดยเฉพาะไก่) ที่ป่วยโดยตรง

2. การสัมผัสถูกสิ่งแวดล้อมที่ปนเปื้อนเชื้อในบริเวณที่เกิดโรคระบาดของสัตว์ปีก เช่น ดิน กรงหรือเล้าสัตว์ น้ำหรืออาหารที่ป้อนสัตว์ เป็นต้น

เชื้อจะติดมากับมือของผู้ป่วย เมื่อเผลอใช้นิ้วมือแยงตา แยงจมูก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุตาและเยื่อบุจมูก

ระยะฟักตัว 2-8 วัน (เฉลี่ย 4 วัน)

กลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ ได้แก่ ผู้ที่คลุกคลีสัมผัสใกล้ชิดกับไก่ที่ป่วย หรืออยู่ในบริเวณที่มีการระบาดของไข้หวัดนกในฝูงสัตว์ปีก เช่น ผู้ที่เลี้ยงไก่ ทำงานในฟาร์มไก่ ขนย้ายไก่ ชำแหละไก่ เด็กที่เล่นคลุกคลีกับไก่ ผู้ที่ทำหน้าที่ทำลายสัตว์ปีก เป็นต้น

การติดเชื้อจากคนสู่คนแบบไข้หวัดใหญ่นั้นเกิดได้ยาก จะต้องมีการสัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่น แม่ดูแลลูกที่ป่วย โดยการสัมผัสน้ำลายหรือเสมหะของผู้ป่วย และการติดต่อจะสิ้นสุดที่ผู้ติดเชื้อคนที่ 2 (เช่น แม่ที่ติดเชื้อจากลูก) ไม่ติดต่อให้คนที่ 3 ต่อไป

แต่เกรงกันว่า เชื้อไข้หวัดนกอาจกลายพันธุ์โดยการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมระหว่างไวรัสไข้หวัดนกกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ของคน เมื่อคนหรือหมูติดเชื้อไวรัสทั้ง 2 ชนิดพร้อมกัน หากเกิดการกลายพันธุ์ก็สามารถติดจากคนสู่คนได้ง่าย และอาจมีการระบาดรุนแรงดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต (ในปี พ.ศ. 2461-2462 มีการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สเปน ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกราว 20-40 ล้านคน เกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรมในหมู)


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการแบบไข้หวัดใหญ่ คือเริ่มด้วยอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั่วตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ บางรายอาจมีอาการตาแดง ปวดท้อง อาเจียน หรือท้องเดินร่วมด้วย

ต่อมาผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการหายใจหอบเนื่องจากปอดอักเสบ ซึ่งอาจเกิดตั้งแต่ 1-16 วัน (ค่ามัธยฐาน 5 วัน) หลังมีไข้ บางรายอาจมีอาการปอดอักเสบหลังจากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินนำมาก่อน โดยไม่มีอาการเจ็บคอ เป็นหวัด ไอก็ได้

นอกจากนี้ บางรายอาจมีอาการท้องเดินรุนแรงนำมาก่อน แล้วตามมาด้วยอาการชัก หมดสติ และตายเนื่องจากภาวะสมองอักเสบก็ได้

ในรายที่เป็นไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อนก็จะหายได้เองภายใน 2-7 วัน อาการรุนแรงมักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่

บางรายอาจติดเชื้อโดยไม่มีอาการแสดงก็ได้


ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญก็คือ ปอดอักเสบ (ซึ่งเกิดจากไวรัสเป็นส่วนใหญ่) และกลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome/ARDS) ซึ่งอาจเกิดตั้งแต่ 4-13 วัน (ค่ามัธยฐาน 6 วัน) หลังมีไข้ และเป็นสาเหตุทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ การเสียชีวิตเกิดตั้งแต่ 9-30 วัน (ค่ามัธยฐาน 12 วัน) หลังมีไข้

นอกจากนี้ ยังอาจพบภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น หัวใจวาย ไตวาย ตับอักเสบ เลือดออกในปอด (pulmonary hemorrhage) ปอดทะลุ ภาวะพร่องเม็ดเลือดทุกชนิด (pancytopenia) โรคเรย์ซินโดรม กลุ่มอาการโลหิตเป็นพิษ (sepsis syndrome) เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบดังนี้

ไข้ ≥ 38 องศาเซลเซียส

อาจพบอาการน้ำมูกไหล (พบได้ประมาณร้อยละ 50-60 ของผู้ป่วย)

ในรายที่มีปอดอักเสบร่วมด้วย จะพบอาการหายใจหอบ ใช้เครื่องตรวจฟังปอดอาจได้ยินเสียงกรอบแกรบ (crepitation)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการนำสิ่งคัดหลั่งบริเวณคอหอย โพรงหลังจมูก หรือหลอดลมไปตรวจหาเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น immunofluorescent assay (IFA), reverse transcriptase-poly-merase chain reaction (RT-PCR), real time PCR การแยกเชื้อในเซลล์เพาะเลี้ยง เป็นต้น และทำการตรวจพิเศษ เช่น เอกซเรย์ปอด (พบร่องรอยการอักเสบของปอด) ตรวจเลือด (พบเกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ต่ำ เอนไซม์ตับ ได้แก่ AST และ ALT สูง ครีอะตินีนสูง)


การรักษาโดยแพทย์

ถ้าพบผู้ป่วยเป็นไข้ (≥ 38 องศาเซลเซียส) ไข้หวัดหรือไข้ร่วมกับหายใจหอบ และมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายภายใน 7 วันก่อนป่วย หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของไข้หวัดนกภายใน 14 วันก่อนป่วย หรือพบผู้ป่วยที่สงสัยเป็นไข้หวัดนก ควรส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็ว

ถ้าตรวจพบหรือสงสัยเป็นไข้หวัดนก มักจะต้องรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล

การรักษา แพทย์จะให้ยาต้านไวรัส ได้แก่ โอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) นาน 5 วัน ยานี้จะใช้ได้ผลดีควรให้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังมีอาการ

ในรายที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า นาน 7-10 วัน

นอกจากนี้ จะให้การรักษาตามอาการหรือภาวะที่พบร่วม เช่น ถ้าหายใจหอบก็ใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้ออกซิเจน

ถ้าสงสัยมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ก็ให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่สงสัย

ในรายที่มีภาวะการหายใจล้มเหลว อาจพิจารณาให้สเตียรอยด์ (ซึ่งยังสรุปไม่ได้แน่ชัดถึงประโยชน์ของการใช้ยานี้)

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค ในรายที่มีการติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน มักจะมีอัตราตายสูง มักตายภายใน 6-30 วันหลังมีอาการ (เฉลี่ย 9-10 วัน)

ในรายที่มีอาการไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน ก็มักจะรักษาให้หายขาดได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้หลังจากสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตาย หรืออยู่ในบริเวณที่มีการระบาดของไข้หวัดนกในฝูงสัตว์ปีก หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ หรือเพิ่งกลับจากการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไข้หวัดนก ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์


การป้องกัน

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตาย และไม่นำสัตว์ปีกพวกนี้มาชำแหละเป็นอาหาร

2. หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีกในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัดนก ให้สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือ (ถ้าไม่มีให้สวมถุงพลาสติกหนา ๆ แทน)

3. ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ทุกครั้งหลังการสัมผัสสัตว์ปีก น้ำลาย น้ำมูก และมูลของสัตว์ปีก

4. กินเนื้อสัตว์ปีก หรือไข่ที่ปรุงให้สุกแล้ว

5. เมื่อสมาชิกในบ้านเป็นไข้หรือไข้หวัด ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันไข้หวัด (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การป้องกัน" ในโรคไข้หวัด)

หากสงสัยเป็นไข้หวัดนก ให้รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็ว และผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาให้กินยาต้านไวรัส ได้แก่ โอเซลทามิเวียร์ป้องกัน ผู้ใหญ่กินขนาด 75 มก. (เด็กใช้ขนาดครึ่งหนึ่งของที่ใช้ในการรักษา) วันละครั้ง นาน 7-10 วัน

6. สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข

    ในกรณีที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ (ถ้าหากเป็นพร้อมกับไข้หวัดนก ก็อาจเสี่ยงต่อการทำให้มีการแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรม จนกลายพันธุ์เป็นไข้หวัดนกที่แพร่จากคนสู่คนได้ง่าย)
    ทุกครั้งที่ให้การดูแลผู้ป่วยไข้หวัดนก ควรสวมหน้ากากอนามัย แว่นตาป้องกันการติดเชื้อ และเสื้อกาวน์ รวมทั้งหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    ถ้ามีการสัมผัสผู้ป่วยไข้หวัดนก โดยไม่ได้ทำตามมาตรการป้องกันดังกล่าว ควรกินยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ขนาด 75 มก. วันละครั้ง นาน 7-10 วัน
    เมื่อมีการสัมผัสผู้ป่วยไข้หวัดนก ควรเฝ้าระวังสังเกตอาการและวัดไข้ทุกวัน จนพ้นระยะฟักตัวของโรค หากมีอาการน่าสงสัย ควรรีบทำการตรวจวินิจฉัย และอาจจำเป็นต้องให้ยารักษาแต่เนิ่น ๆ


การป้องกันและควบคุมโรคระบาดในสัตว์ปีก

1. ป้องกันไม่ให้นกอพยพและสัตว์พาหะอื่น ๆ เข้ามาในฟาร์ม

2. นำไก่อายุเดียวกันเข้าฟาร์มมาทีละชุด และควรแยกขังสัตว์ที่นำเข้ามาใหม่ไว้ก่อนจนพ้นระยะฟักตัวของโรค

3. ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อเข้ามาในฟาร์มอย่างเข้มงวด เช่น ไม่นำวัสดุรองพื้น ถาดไข่ และวัสดุอุปกรณ์จากพื้นที่ระบาดมาใช้ ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อตามยานพาหนะ วัสดุ อุปกรณ์

4. ฉีดวัคซีนป้องกันเฉพาะในสัตว์ปีกที่มีราคาแพง เช่น สัตว์ปีกสวยงาม ไก่ชน

5. เฝ้าระวังโรคในสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด ถ้าสงสัยสัตว์ปีกป่วยเป็นไข้หวัดนก (มีอาการไข้ หงอยซึม ไม่กินอาหาร ขนยุ่ง หน้า หงอน และเหนียงบวม และมีสีแดงคล้ำ มีจุดเลือดออกที่หน้าแข้ง ไอ จาม น้ำมูกไหล อาจมีอาการท้องเสีย ชัก และลดการไข่ หรือไข่มีลักษณะผิดปกติ ตายอย่างรวดเร็วภายใน 24-48 ชั่วโมง) ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อดำเนินการควบคุมโรค ดังนี้

    ในฟาร์มที่มีการระบาด ต้องทำลายสัตว์ปีกทั้งหมด รวมทั้งสัตว์ปีกในพื้นที่ควบคุมรัศมี 1-5 กม.
    เก็บตัวอย่างมูลสัตว์ (cloacal swab) ในพื้นที่ควบคุมส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    ซากไก่ เป็ด ไข่ รวมทั้งมูลสัตว์ในพื้นที่ระบาดต้องทำลายทิ้งทั้งหมดด้วยการฝังหรือเผา ห้ามนำมาบริโภค หรือนำไปทำปุ๋ย หรือเลี้ยงสัตว์

วิธีฝัง ให้ใส่ซากสัตว์ในถุงพลาสติก รัดปากถุงให้แน่น ฝังให้ห่างจากบ่อน้ำหรือแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างน้อย 30 เมตร ฝังซากให้ลึกอย่างน้อย 1 เมตร แล้วโรยปูนขาวหรือราดน้ำยาฆ่าเชื้อ หรืออาจใช้น้ำเดือดราดที่ซากก่อนกลบดินให้แน่น

    ทำความสะอาด และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วโรงเรือนและบริเวณโดยรอบอย่างสม่ำเสมอ
    ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก และเฝ้าระวังการติดเชื้อในพื้นที่ควบคุมรัศมี 50 กม.
    กรณีที่ต้องการเก็บซากสัตว์เพื่อทำลาย หรือส่งตรวจชันสูตร ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน (เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย) เมื่อเสร็จงานแล้ว ควรนำอุปกรณ์และเสื้อผ้าไปทำความสะอาดด้วยน้ำที่ผสมผงซักฟอก ผึ่งแดดให้แห้ง เสร็จแล้วต้องรีบล้างมือ และอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำกับสบู่ทันที
    ในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาด ห้ามนำสัตว์ปีกเข้ามาเลี้ยงใหม่จนกว่าจะตรวจสอบไม่พบการติดเชื้อเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วัน

ข้อแนะนำ

1. เนื่องจากโรคนี้มีอาการคล้ายไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ แต่มีอันตรายร้ายแรงกว่ากันมาก เนื่องจากเกิดจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งคนเรายังขาดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อชนิดนี้ ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้หรือเป็นไข้หวัด และมีประวัติว่ามีการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ป่วยหรือตาย หรือผู้ป่วยไข้หวัดนก ภายใน 7 วันก่อนไม่สบาย หรืออยู่ในพื้นที่ที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกภายใน 14 วันก่อนไม่สบาย ก็ควรส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็ว หากเป็นโรคนี้ควรได้ยาต้านไวรัสภายใน 48 ชั่วโมงหลังมีอาการ ซึ่งอาจช่วยลดความรุนแรงของโรคลงได้

2. ผู้ที่สัมผัสสัตว์ปีก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งไก่หรือเป็ด) ที่ป่วยหรือตาย หรือผู้ป่วยไข้หวัดนก ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากเป็นไปได้ควรทำการวัดไข้ด้วยปรอททุกวัน วันละ 2 ครั้ง จนพ้นระยะฟักตัวของโรค

3. แม้ว่าในปัจจุบันการติดเชื้อจากคนที่เป็นไข้หวัดนกโดยตรงนั้นยังเกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งต้องอยู่สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด แต่เพื่อความปลอดภัย แพทย์ บุคลากรสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วย จะต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อจากผู้ป่วย (อ่านเพิ่มเติมที่หัวข้อ "การป้องกัน" ด้านบน)

4. ถึงแม้ในปัจจุบันไม่มีรายงานการเกิดผู้ป่วยไข้หวัดนก แต่ควรติดตามเฝ้าระวัง หากมีผู้ป่วยเกิดขึ้นใหม่จะได้ระมัดระวังหาทางป้องกันไม่ให้เป็นโรคร้ายแรงชนิดนี้

12
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างกรุงเทพ รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน ขนย้ายต่างจังหวัดเน้นคุณภาพ ราคาถูก งานตรงตามข้อตกลงและเป้าหมาย

รถรับจ้างขนของ ย้ายของทั้งใน กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดพร้อม ทีมงานคุณภาพขนส่ง มีรถใช้บริการทั่วประเทศโดยมีคนขับมืออาชีพ มีประสบการณ์ ชำนาญเส้นทาง บริการย้ายบ้าน ย้ายเครื่องใช้ภายในครัว สิ่งก่อสร้าง ย้ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานทั่วไป  ขนต้นไม้ ขนย้ายบูธแสดงสินค้า ป้ายโฆษณา และอื่นๆอีกมากมาย เมื่อเรานึกถึงบริการ รถกระบะรับจ้างกรุงเทพมหานคร แน่นอนว่าการบริการรถรับจ้างขนของขนส่ง เป็นการบริการรับจ้างขนย้ายที่ครบวงจรเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วย


รถกระบะรับจ้างจังหวัดกรุงเทพ รถกระบะรับจ้างราคาถูก หากลูกค้าท่านใดสนใจขนย้ายบ้าน ก่อนที่จะเริ่มย้ายบ้าน ทีมงานขนส่ง ของเราได้เข้าไปสำรวจพื้นที่หน้างานเพื่อวางแผนและจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ ภายในบ้านของลูกค้านั้นมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ต้องถอดประกอบด้วย เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี เตียงนอน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มักจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงในการย้ายบ้าน เนื่องจากการย้ายเฟอร์นิเจอร์นั้นมีน้ำหนักมากและขนาดใหญ่จึงจะต้องถอดแยกชิ้นออกเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการขนย้ายหลังจากสำรวจหน้างานและจัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว


ทีมงานขนส่ง จึงเข้ามาปฏิบัติงาน ถอดแยกเฟอร์นิเจอร์ แพ็คและห่อหุ้มของต่างๆ กรณีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูง เช่น ทีวี ตู้เย็น หรือพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ถอดแยกชิ้นออกมาแล้ว จะถูกแพ็คอย่างดีเป็นพิเศษด้วยวัสดุกันกระแทก ชั้นเพื่อป้องกันรอยขีดขวนและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากแรงกระแทกหรือหลุมพุพังของถนนทำให้เกิดการเสียหายขึ้นก็ตาม ของทั้งหมดจะถูกขนขึ้นรถเพื่อนำมาส่งที่ปลายทางให้ลูกค้า เสร็จแล้วทางทีมงานขนส่ง จะจัดลงของให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้วนำไปจัดวางยังตำแหน่งที่ลูกค้าต้องการ ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการขนย้ายบ้านที่เราบริการ

รถรับจ้างขนของไปต่างจังหวัด ราคาประหยัด รับส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน พร้อมทีมงานยกของ บริการ ย้ายบ้าน ย้ายหอ ย้ายแคมป์ไซต์งานก่อสร้าง ย้ายทุกอย่างครบวงจร สะดวก รวดเร็ว ตรงต่อเวลา รถกระบะรับจ้าง รถส่งของทั่วไป

รถหกล้อรับจ้าง รถขนของย้ายบ้าน ประเภท: รถรับจ้าง, รถขนส่ง ให้เช่า การบริการระดับมืออาชีพ ที่เน้นคุณภาพ ราคาถูก งานตรงตามข้อตกลงและเป้าหมายของลูกค้าทั้งหมด รวดเร็ว พร้อมให้คำปรึกษาฟรี บริการ รถ รับจ้าง 4ล้อ 6ล้อ ขนของ ย้ายของ ย้ายครัว หอพัก ที่พักอาศัย สินค้า ทุกประเภท ฝาก ส่ง ของใช้ในครัวเรือน กลับ ต่างจังหวัด รายชิ้น รายเที่ยว บริการ ทั่วประเทศ ราคาประหยัด บริการ รับส่ง สัตวเลี้ยง บริการ รถ ขนย้าย ที่พัก บริการ ส่ง รถมอเตอร์ไซค์ บริการ รับส่ง สินค้า

13
โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก (Burns)

บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเพียงเล็กน้อยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนพอทนได้ และค่อย ๆ หายไปได้เอง แต่ถ้าเป็นมาก (กินบริเวณกว้าง และแผลลึก) มักจะมีภาวะแทรกซ้อน ทำให้ทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้


สาเหตุ

มักเกิดจากความประมาทเลินเล่อ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ สิ่งที่ทำให้เกิดบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ที่พบได้แก่

1. ความร้อน เช่น น้ำร้อน (หม้อน้ำ กระติกน้ำ กาน้ำ ไอน้ำ) น้ำมันร้อน ๆ (ในกระทะ) ไฟ (เตาไฟ ตะเกียง บุหรี่ ประทัด พลุ) วัตถุที่ร้อน (เช่น เตารีด จานชามที่ใส่ของร้อน)

2. ไฟฟ้าช็อต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน "ไฟฟ้าช็อต"

3. สารเคมี เช่น กรด ด่าง

4. รังสี เช่น แสงอัลตราไวโอเลต (แสงแดด) รังสีเรเดียม รังสีโคบอลต์ รังสีนิวเคลียร์ ระเบิดปรมาณู เป็นต้น


อาการ

อาการขึ้นอยู่กับขนาด ความลึก และตำแหน่งของบาดแผล

1. ขนาด หมายถึงบริเวณพื้นที่ของบาดแผล แผลขนาดใหญ่ (กินบริเวณกว้าง) จะมีอันตรายกว่าแผลขนาดเล็ก อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ โปรตีน และเกลือแร่ ถึงกับเกิดภาวะช็อกได้ และอาจมีโอกาสติดเชื้อถึงขั้นเป็นโลหิตเป็นพิษถึงตายได้

การประเมินขนาดกว้างของบาดแผล นิยมคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย ถ้าคิดหยาบ ๆ ให้เทียบเอาว่า แผลขนาดหนึ่งฝ่ามือ (ของผู้ป่วย) เท่ากับ 1% ของผิวหนังทั่วร่างกาย เช่น ถ้าแผลมีขนาดเท่ากับ 10 ฝ่ามือ ก็คิดเป็นประมาณ 10% เป็นต้น

ทางการแพทย์ได้แบ่งเปอร์เซ็นต์ของผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นมาตรฐานทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ (ดังภาพที่แสดง) ซึ่งสะดวกในการคิดคำนวณ

บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก

2. ความลึก ผิวหนังมีความลึก 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า (epidermis) และชั้นหนังเเท้ (dermis) เราแบ่งบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ออกเป็น 3 ขนาดด้วยกัน ดังนี้

(1) บาดเเผลดีกรีที่ 1 หมายถึง บาดแผลที่มีการทำลายของเซลล์หนังกำพร้าชั้นผิวนอกเท่านั้น หนังกำพร้าชั้นในยังไม่ถูกทำลาย สามารถเจริญขึ้นมาแทนที่ส่วนผิวนอกได้ จึงมีโอกาสหายได้สนิทและไม่มีแผลเป็นยกเว้นถ้ามีการติดเชื้ออักเสบ

มักเกิดจากการถูกแดดเผา (อาบเเดด) การถูกน้ำร้อน ไอน้ำเดือด หรือวัตถุที่ร้อนเพียงเฉียด ๆ และไม่นาน

ผิวหนังส่วนที่เป็นบาดแผลจะมีลักษณะแดงบวมเล็กน้อย และปวดแสบปวดร้อน ไม่มีตุ่มพอง หรือหนังหลุดลอก มีลักษณะแบบเดียวกับรอยแดดเผา ซึ่งถือเป็นบาดแผลไหม้ดีกรีที่ 1 แบบหนึ่ง

บาดเเผลดีกรีที่ 1 ไม่ทำให้เกิดการสูญเสียน้ำและโปรตีน จึงไม่ต้องคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของผิวหนังที่เกิดบาดแผล มักจะหายได้เองและไม่มีอันตรายร้ายแรง

(2) บาดแผลดีกรีที่ 2 หมายถึง บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าตลอดทั้งชั้น (ทั้งชั้นผิวนอกและชั้นในสุด) และหนังแท้ส่วนที่อยู่ตื้น ๆ (ใต้หนังกำพร้า) แต่ยังมีเซลล์ที่สามารถเจริญทดแทนส่วนที่ตายได้ จึงหายได้เร็วและไม่เกิดเป็นแผลเป็นเช่นกัน ยกเว้นถ้ามีการติดเชื้อ

มักเกิดจากการถูกของเหลวลวก หรือถูกเปลวไฟ

บาดแผลจะมีลักษณะแดงและพุเป็นตุ่มน้ำขนาดเล็กและใหญ่ ผิวหนังอาจหลุดลอกเห็นเป็นเนื้อแดง ๆ มีน้ำเหลืองซึม มีอาการเจ็บปวด อาจทำให้สูญเสียน้ำ โปรตีน และเกลือแร่ และติดเชื้อได้ง่าย

(3) บาดแผลดีกรีที่ 3 หมายถึง บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ ขุมขนเเละเซลล์ประสาท ผู้ป่วยมักไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดที่บาดเเผล ผิวหนังทั้งชั้นจะหลุดลอกเห็นเป็นเนื้อแดง ๆ หรือแดงสลับขาว หรือเป็นเนื้อที่ไหม้เกรียม

มักเกิดจากไฟไหม้หรือถูกของร้อนนาน ๆ หรือไฟฟ้าช็อต

ถือเป็นบาดแผลที่ร้ายแรง อาจเกิดภาวะขาดน้ำหรือติดเชื้อรุนแรงได้ แผลมักจะหายยากและเป็นแผลเป็น

ในการเกิดบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกแต่ละครั้ง อาจมีบาดแผลที่มีความลึกขนาดต่าง ๆ กันในคนเดียวกันได้ และบางครั้งในระยะแรกอาจแยกบาดแผลดีกรีที่ 2 เเละ 3 ออกจากกันไม่ชัดก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ชนิดนี้ล้วนถือเป็นบาดแผลที่มีอันตรายรุนแรง และควรคิดเปอร์เซ็นต์ของผิวหนังที่เกิดบาดแผล

3. ตำแหน่ง บาดแผลบนใบหน้า อาจทำให้เป็นแผลเป็นและเสียโฉมได้มาก ถ้าถูกบริเวณตา อาจทำให้ตาบอดได้ แผลที่มือและตามข้อพับต่าง ๆ อาจทำให้ข้อนิ้วมือและข้อต่าง ๆ มีแผลเป็นดึงรั้ง ทำให้เหยียดออกไม่ได้

ถ้าสูดควันไฟเข้าไปในปอดระหว่างเกิดเหตุ อาจทำให้เยื่อบุของทางเดินหายใจเกิดการอักเสบ กลายเป็นหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบ อาจรุนแรงจนหายใจไม่ได้ ถึงตายได้

บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
 

ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีภาวะขาดน้ำหรือการติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นอันตรายได้ นอกจากนี้อาจมีแผลเป็นขนาดใหญ่หรือแผลเป็นดึงรั้ง ทำให้แขนขาเหยียดออกไม่ได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าเป็นเพียงบาดแผลดีกรีที่ 1

ให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ ซับให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมสเตียรอยด์ หรือเจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชกรรมบาง ๆ หรือทาด้วยปิโตรเลียมเจลลี่หรือน้ำมันมะกอก และให้ยาแก้ปวดถ้ารู้สึกปวด

2. ถ้าเป็นบาดแผลดีกรีที่ 2 หรือ 3

(1) แพทย์อาจรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาลโดยเร็ว ในกรณีต่อไปนี้

    บาดแผลดีกรีที่ 3 มีขนาดมากกว่า 2 ฝ่ามือ (2%)
    บาดแผลดีกรีที่ 2 มีขนาดมากกว่า 10 ฝ่ามือ (10%) ในเด็ก หรือ 15 ฝ่ามือ (15%) ในผู้ใหญ่
    บาดแผลที่ตา หู ใบหน้า มือ เท้า อวัยวะสืบพันธุ์ ตามข้อพับต่าง ๆ
    บาดแผลในทารก เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ
    สูดควันไฟเข้าไประหว่างเกิดเหตุ
    มีภาวะช็อก

(2) ถ้าไม่มีอาการดังกล่าวในข้อ (1) อาจให้การรักษาโดย

    ชะล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่
    ถ้ามีตุ่มพองเล็ก ๆ เพียง 2-3 ตุ่ม เกิดที่ฝ่ามือ ไม่ควรใช้เข็มเจาะ ให้ทาด้วยยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน หรือทิงเจอร์ใส่แผลสด (merthiolate) แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซ ตุ่มจะค่อย ๆ แห้งและหลุดล่อนไปเองใน 3-7 วัน
    ถ้ามีตุ่มพองที่แขนขา หลังมือ หลังเท้า หลังจากทำความสะอาดด้วยน้ำกับสบู่แล้ว ให้ใช้มีดหรือกรรไกรที่ทำให้ปราศจากเชื้อ (เช่น แช่ในแอลกอฮอล์แล้ว) เจาะเป็นรู แล้วใช้ผ้าก๊อซที่ปราศจากเชื้อกดซับน้ำเหลืองให้แห้ง ใช้โพวิโดนไอโอดีนหรือทิงเจอร์ใส่แผลสดทา แล้วพันด้วยผ้ายืดให้ผิวที่พองกดแนบสนิท ภายใน 2-3 วัน หนังที่พองจะหลุดล่อน
    ถ้ามีตุ่มพองเป็นบริเวณกว้าง ให้ใช้กรรไกรที่ทำให้ปราศจากเชื้อขริบเอาหนังที่พองออก แล้วล้างด้วยน้ำเกลือ ซับให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมซัลฟาไมลอน (Sulfamylon) ขี้ผึ้งแบกตาซิน (Bactacin) น้ำยาโพวิโดนไอโอดีน ครีมซิลเวอร์ซัลฟาไดอาซีน (silver sulfadiazine) หรือพ่นด้วยสเปย์พรีเดกซ์ (Predex spray)

ถ้าเป็นบริเวณแขนหรือขา ให้ใช้ผ้าพัน

ถ้าเป็นที่หน้าหรือลำตัว ให้เปิดแผลไว้ ควรล้างแผลและใส่ยาวันละ 1-2 ครั้ง เมื่อดีขึ้นค่อยทำห่างขึ้น

    ให้พาราเซตามอลบรรเทาปวด ฉีดยาป้องกันบาดทะยัก และให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่บาดแผลติดเชื้อ
    ถ้าบาดแผลลึก อาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายผิวหนัง (skin graft)


การดูแลตนเอง

เมื่อเกิดบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ควรทำการปฐมพยาบาล และรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว


การปฐมพยาบาล

เมื่อเกิดบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ควรทำการปฐมพยาบาล ดังนี้

1. สำหรับบาดแผลเล็กน้อย หมายถึง บาดแผลที่มีลักษณะเป็นรอยแดงคล้ายถูกแดดเผา มีอาการปวดแสบปวดร้อน และอาจมีอาการบวมเล็กน้อย (บาดแผลดีกรีที่ 1) หรือเป็นตุ่มพอง (บาดแผลดีกรีที่ 2) ขนาดเล็กน้อยและมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 8 เซนติเมตร

    รีบใช้น้ำเย็น หรือน้ำก๊อก ประคบบริเวณที่มีบาดแผล เพื่อลดอาการปวดแสบปวดร้อน และป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลายมากขึ้น

อาจใช้วิธีเปิดน้ำก๊อกให้ไหลชะรอยแผลอย่างต่อเนื่อง หรือแช่ในน้ำเย็น หรือใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็น หรือใช้ถุงพลาสติกใส่น้ำเย็นวางตรงบริเวณที่มีบาดแผล อย่างน้อย 20 นาที หรือจนกว่าอาการปวดแสบปวดร้อนทุเลาลง

    ถ้าเป็นรอยแดง ปวดแสบปวดร้อน หลังซับให้แห้งแล้วใช้วุ้นจากใบหางจระเข้ (เช่น เจลว่านหางจระเข้) หรือวาสลีนทาวันละ 2-3 ครั้ง (ควรทาเบา ๆ ระวังอย่าลูบหรือถูแรง ๆ อาจกระทบต่อผิวหนังที่บาดเจ็บอยู่ได้) ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ปิดแผล หรือผ้าก๊อซที่สะอาด
    ถ้าเป็นตุ่มพอง ไม่ควรเจาะออก ควรปล่อยให้แห้งและหลุดล่อนไปเอง (ถ้าตุ่มแตกเองให้ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือล้างแผลหรือน้ำสะอาด) หลังซับให้แห้งปิดแผลด้วยพลาสเตอร์ปิดแผลหรือผ้าก๊อซที่สะอาด แต่อย่าให้แน่นมาก
    ถอดเครื่องประดับ (เช่น แหวน กำไล) ออกจากปลายแขนหรือขาที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก หากปล่อยไว้จนมีอาการบวมแล้วจะถอดได้ยาก หรือทำให้เกิดอันตรายได้
    ถ้าปวดแผล กินพาราเซตามอล*

    ควรไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

1. มีอาการปวดมาก หรือกินยาแก้ปวดไม่บรรเทา
2. รอยแดงมีขนาดกว้างมาก หรือเป็นที่บริเวณใบหน้า หู ตา หรือตามข้อพับต่างๆ หรือพบในทารกหรือผู้สูงอายุ
3. ตุ่มพองมีขนาดใหญ่ หรือกินบริเวณกว้าง (มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 8 เซนติเมตร) หรือเกิดขึ้นที่บริเวณหู ตา ใบหน้า มือ เท้า ขาหนีบ ตามข้อพับต่าง ๆ อวัยวะเพศ หรือก้น
4. บาดแผลไม่หายใน 1 สัปดาห์ หรือตุ่มพองมีการอักเสบหรือเป็นหนอง
5. มีความวิตกว่าบาดแผลมีความรุนแรงเกินกว่าจะดูแลรักษาด้วยตนเอง

2. สำหรับบาดแผลที่รุนแรง หมายถึง บาดแผลลึก ผิวหนังทั้งชั้นหลุดลอกเห็นเป็นเนื้อแดง ๆ หรือแดงสลับขาว หรือเป็นเนื้อที่ไหม้เกรียม (บาดแผลดีกรีที่ 3) หรือเป็นตุ่มพอง (บาดแผลดีกรีที่ 2) ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 8 เซนติเมตร หรือ มีตุ่มพองเกิดขึ้นที่บริเวณหู ตา ใบหน้า มือ เท้า ขาหนีบ ตามข้อพับต่าง ๆ อวัยวะเพศ หรือก้น ควรรีบไปโรงพยาบาล

ควรให้การปฐมพยาบาลก่อนไปโรงพยาบาล ดังนี้

    เปลื้องเสื้อผ้าออกจากบริเวณที่ถูกไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก หรือตัดออกเป็นชิ้น ๆ แต่ถ้าเสื้อผ้าติดกับบาดแผลแน่นก็ไม่ต้องดึงออก เพราะจะเจ็บมาก ควรใช้ผ้าสะอาดคลุม
    ให้ยกส่วนที่มีบาดแผลไว้ให้สูงกว่าระดับหัวใจ
    ถอดเครื่องประดับ (เช่นแหวน กำไล) ออกจากปลายแขนหรือขาที่ถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก หากปล่อยไว้จนมีอาการบวมแล้วจะถอดได้ยาก หรือทำให้เกิดอันตรายได้
    ถ้าผู้ป่วยกระหายน้ำ หรือใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมงในการเดินทางไปถึงสถานพยาบาล ควรให้ผู้ป่วยดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ หรืออาจให้กินน้ำส้มคั้นใส่เกลือก็ได้ ควรให้ดื่มครั้งละ 1/4-1/2 แก้ว ทุก ๆ 15 นาที
    ควรใช้ผ้าสะอาดบาง ๆ คลุมร่างกายของผู้ป่วย และให้ผู้ป่วยนอนยกเท้าสูงเล็กน้อย
    ถ้าปวด ให้กินพาราเซตามอล*
    ถ้ามีภาวะช็อก (หน้าซีด เหงื่ออก ตัวเย็น หน้ามืด จะเป็นลม) ให้ทำการปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ป่วยนอนราบศีรษะต่ำ หาอะไรมารองที่ใต้เท้า หรือยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ ใช้ผ้าหนา ๆ หรือผ้าห่มคลุมหรือห่อตัวให้อบอุ่น รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือติดต่อรถพยาบาลมารับ

*เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำวิธีและขนาดยาที่ใช้ ผลข้างเคียงของยา และข้อควรระวังในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ โดยเฉพาะการใช้ยาในเด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวหรือมีการใช้ยาบางชนิดที่แพทย์สั่งใช้อยู่เป็นประจำ


การป้องกัน

ควรหาทางป้องกันบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกโดย

    อย่าให้เด็กเล็กเล่นในห้องครัว
    อย่าวางกาน้ำร้อน หม้อน้ำแกง กระติกน้ำร้อน ตะเกียง ไม้ขีดหรือวัตถุอื่น ๆ ที่มีความร้อนไว้ใกล้มือเด็ก
    อย่าวางบุหรี่ ตะเกียง ใกล้ผ้าห่ม มุ้ง หรือสิ่งที่อาจติดไฟได้ง่าย

ข้อแนะนำ

1. การปฐมพยาบาลบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกที่แนะนำในปัจจุบันคือ รีบใช้น้ำเย็นประคบทันทีหลังเกิดเหตุ อย่าใช้ยาสีฟัน น้ำปลา หรือยาหม่องทา

2. บาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกที่เกิดในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ถึงแม้จะมีขนาดไม่กว้างมาก แต่ก็อาจมีอันตรายมากกว่าที่พบในคนหนุ่มสาว ดังนั้นจึงควรแนะนำไปรักษาที่โรงพยาบาลทุกราย

3. บาดแผลที่ข้อพับ อาจทำให้เกิดแผลเป็นดึงรั้งข้อต่อให้คดงอ (เหยียดไม่ได้) สามารถป้องกันได้โดยใช้เฝือกดามข้อในบริเวณนั้นตั้งแต่แรก

4. ภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ ในระยะ 2-3 วันแรก คือ ภาวะขาดน้ำและช็อก ถ้ามีบาดแผลกว้าง แพทย์จะให้สารน้ำ ได้แก่ ริงเกอร์เเล็กเทต (Ringer’s lactate) น้ำเกลือและพลาสมา

ส่วนการติดเชื้ออาจเกิดขึ้นหลังจากมีบาดแผล 2-3 วันไปแล้ว (หรือหลัง 1 สัปดาห์) ถ้าบาดแผลมีขนาดกว้างก็มีโอกาสติดเชื้อรุนแรง

โดยทั่วไปถือว่าบาดแผลดีกรีที่ 2 ที่มีขนาดมากกว่า 30% และบาดเเผลดีกรีที่ 3 ที่มีขนาดมากกว่า 10% ถือเป็นบาดแผลรุนแรง รักษายากและมักจะมีอัตราตายสูง

5. ผู้ที่มีบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ควรกินอาหารโปรตีน (เช่น เนื้อ นม ไข่ ถั่วต่าง ๆ) ให้มาก ๆ เพราะร่างกายมีการสูญเสียโปรตีนออกไปทางบาดแผล

หลังบาดแผลหายใหม่ ๆ ควรระวังอย่าให้รอยแผลเป็นโดนแสงแดด ถ้าจำเป็นต้องออกกลางแดด ควรใส่เสื้อผ้าที่ปกคลุมรอยแผล หรือทายากันแดด จนกว่าผิวหนังจะฟื้นจนเป็นปกติดี


6. ถ้ามีบาดแผลถูกกรดหรือด่าง ควรให้การปฐมพยาบาล โดยรีบชะล้างแผลด้วยน้ำก๊อก นานอย่างน้อย 5 นาที แล้วส่งโรงพยาบาล แพทย์อาจให้การรักษาแบบเดียวกับบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก





14
คอนโดติดรถไฟฟ้า นิว ดิสทริค อาร์ 9 พระราม 9 (Nue District R9 Rama 9)
เริ่มต้น 3.68 ลบ. 

นิว ดิสทริค อาร์ 9 พระราม 9 (Nue District R9 Rama 9)
คอนโดห้องหน้ากว้าง เฟอร์ครบ* แห่งเดียวในย่าน 180 ม. ถึงเซ็นทรัล พระรามเก้า และ MRT พระราม9 และสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ           นิว ดิสทริค อาร์ 9 พระราม 9 (Nue District R9 Rama 9)
 เจ้าของโครงการ     โนเบิลดีเวลลอปเม้นท์
 แบรนด์ย่อย           นิว ดิสทริค
 ราคา                  เริ่มต้น 3.68 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล               คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด             High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี             1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี               ตั้งแต่ 26.00 ถึง 46.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด               6 ไร่ 90 ตร.ว.
 จำนวนตึก                  1 อาคาร 2 ทาวเวอร์
 จำนวนชั้น                  33 ชั้น และ 41 ชั้น
 จำนวนห้อง                 1,441 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด          40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
 ค่าบำรุงส่วนกลาง         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค           สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., กล้องวงจรปิดโครงการ, ประตู Key Card, อื่นๆ (Mellow Co-kitchen, Photography Studio, Recording Studio, Kids Club, Art Hub, Urban Yoga & Pilates, Golf Simulator, Harmony Park), สวนหย่อม, Sky Lounge, Co-Working Space, ห้องประชุม

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       รัชดา, ห้วยขวาง, พระราม 9, เพชรบุรี
 ที่ตั้ง       ถนนพระรามเก้า แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:        ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, สถานีบางซื่อ - หัวลำโพง(พระราม 9)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Central Plaza พระราม 9
Fortune Town พระราม 9
Esplanade รัชดาภิเษก
Big C รัชดาภิเษก
The Street รัชดาภิเษก
Home Pro รัชดาภิเษก
Tops market Belle Grand Rama 9
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รัชดา
โรงเรียนอำนวยพิทยา
โรงเรียนอนุบาลโชคชัย
โรงเรียนอนุบาลลีนา
โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ
โรงพยาบาลพระราม 9
โรงพยาบาลปิยะเวท
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

15
เมื่อจัดฟันเด็กแล้ว โตขึ้นต้องจัดฟันอีกหรือไม่

ในเรื่องอของการเริ่มต้นกิจวัตรประจำวันในการทำความสะอาดช่องปากของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ปกครองควรเริ่มต้นแปรงฟันทันทีเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกปรากฏขึ้น โดยใช้แปรงสีฟันที่เหมาะสมต่อช่วงอายุ การดูแลอนามัยช่องปากของลูกก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน หลังจากฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น การแปรงฟันในตอนเช้าและก่อนนอน ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหารด้วย ควรใช้แปรงสีฟันเฉพาะสำหรับเด็กที่มีหัวแปรงขนาดเล็กและขนนุ่มพิเศษ ก่อนที่ฟันจะขึ้นคุณแม่ควรใช้ผ้านุ่มๆเช็ดทำความสะอาดเหงือกถึงแม้ว่าน้ำลายเป็นสิ่งปกป้องฟันตามธรรมชาติ จะมีการผลิตลดลงในช่วงเวลานอนหลับ จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องการการดูแลอนามัยช่องปากมากที่สุด ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรใส่ใจในเรื่องของช่องปากของลูก


ตั้งแต่การเลือกใช้ยาสีฟันที่เหมาะสมกับลูกเนื่องจากมีความเสี่ยงที่ลูกของคุณจะกลืนยาสีฟันได้  ฟลูออไรด์จากยาสีฟันที่อยู่ในน้ำลายมีความสำคัญมากในการป้องกันฟันผุ ควรบีบยาสีฟันบางๆ และสอนให้เขารู้จักการทำความสะอาดฟันอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ป้องกันการเกิดฟันผุหรือปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต แน่นอนว่า ถ้าหากเราละเลยในการเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน อาจจะทำให้เด็กไม่สนใจในเรื่องของช่องปากและฟัน และอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ นอกจากนี้  ในเรื่องของการรับประทานอาหารของลูกก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน ควรให้เด็กรับประทานอาหารที่ถูกสัดส่วน จำกัดปริมาณแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสร้างกรดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ หากต้องรับประมานอาหารเหล่านั้น ควรรับประทานไปพร้อมกับมื้ออาหารหลัก แทนที่จะเป็นอาหารว่าง เนื่องจากน้ำลายที่ถูกผลิตออกมาในปริมาณมากช่วงมื้ออาหารหลักจะช่วยชะล้างการตกค้างของเศษอาหารได้มากกว่า เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยให้บุตรหลานของท่านไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องของช่องปากและฟัน


แต่ถ้าหากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน และคิดว่าลูกจะต้องเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ามาพบทันตแพทย์จัดฟันได้ แต่การที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะตัดสินใจให้ลูกเข้ารับการจัดฟัน หลายคนก็คิดหนักและเกิดความสงสัยว่า ถ้าหากพาลูกเข้ารับการจัดฟันในเด็กแล้ว พอโตมาลูกจะต้องเข้ารับการจัดฟันอีกหรือไม่ ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเรามีคำตอบ ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กก่อนว่า สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างหลากหลาย และเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพมาก หากเราปฏิบัติตัวตำคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดแน่นอนว่า ฟันสวยของเราจะอยู่กับเราอย่างถาวรแน่นอน 


สำหรับการที่เด็กเคยผ่านการจัดฟันในเด็กมาแล้ว เพื่อโตเป็นผู้ใหญ่อาจจะต้องจัดฟันใหม่หรืออาจจะไม่ต้องเข้ารับการจัดฟันอีกครั้งก็ได้ สำหรับเด็กที่จัดฟันใน ระยะการจัดฟันเพื่อป้องกันไม่ให้ความผิดปกติมีมากขึ้นหรือแก้ไขความผิดปกติบางอย่างให้มีน้อยลงหรือหายไป มาก่อน ไม่ได้หมายความว่า โตขึ้นแล้วไม่จำเป็นจะต้องจัดฟันแบบติดแน่น เพราะในเด็กบางราย อาจสามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องจัดฟันอีกตอนโต ในขณะที่บางรายก็จำเป็นที่ต้องรับการรักษาจัดฟันแบบติดแน่นอีกครั้ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก และพฤติกรรมของเด็กด้วย เพราะฉะนั้น เราจะต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของเราให้สะอาดอยู่เสมอ ควรใช้ไหมขัดฟันก่อนแปรงฟัน จะเป็นการขจัดเชื้อโรคไป


ด้วย แล้วจึงแปรงฟันด้วยแปรงขนนุ่ม โดยเลือกขนาดของแปรงให้เหมาะกับช่องปากและฟัน สำหรับยาสีฟันควรมีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ และแนะนำให้แปรงแห้งคือ บ้วนปาก บีบยาสีฟันแล้วแปรง บ้วนยาสีฟันส่วนเกินออก หลังแปรงไม่ต้องบ้วนปากอีก ก็จะทำให้เด็กมีช่องปากและฟันที่แข็งแรงได้


อย่างไรก็ตาม หากใครสนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญในด้านทันตกรรมในเด็ก จึงสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้องมากที่สุด จึงมั่นใจได้ว่า หากเข้ารับกบริการจากทางคลินิก ลูกของคุณจะมีฟันที่สวยงาม มีสุขภาพช่องปากและหันที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

16
townhome พรีเมียม เพลส พหลโยธิน รามอินทรา (Premium Place Phaholyothin Ramintra)
เริ่มต้น 6.39 ลบ. 

พรีเมียม เพลส พหลโยธิน รามอินทรา (Premium Place Phaholyothin Ramintra)
การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบ ทาวน์โฮมเจนเนเรชั่นใหม่ของ Premium Place ออกแบบอย่างเข้าใจครอบครัวด้วยแนวคิดผสมผสานความหรูหรา Tropical Luxury Resort Style และความสะดวกสบายเหนือระดับผสานฟังก์ชั่นการใช้งาน Smart Home Innovation อย่างลงตัว

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ                พรีเมียม เพลส พหลโยธิน รามอินทรา (Premium Place Phaholyothin Ramintra)
 เจ้าของโครงการ           พรีเมี่ยมเพลส กรุ๊ป
 ราคา                       เริ่มต้น 6.39 ลบ.
 ประเภทบ้าน               ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome), โฮมออฟฟิศ
 ลักษณะทำเล             บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ            8 ไร่ 3 งาน 78 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 แบบบ้านทั้งหมด         2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน               โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย              ตั้งแต่ 170 ถึง 220 ตร.ม.
 จำนวนชั้น                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 หน้ากว้าง                  ตั้งแต่ 5 ถึง 5.4 ม.
 จำนวนห้องนอน          4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ           2 คัน
 สาธารณูปโภค           สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ.

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       แจ้งวัฒนะ, หลักสี่, ดอนเมือง, บางเขน
 ที่ตั้ง      166 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220

 ขนส่งสาธารณะ            ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม, สถานี(หมอชิต - คูคต)(สายหยุด)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
Venica Plaza
Food Land
Central Plaza รามอินทรา
Big C
โลตัส หลักสี่
The Jazz รามอินทรา
รพ.ซีจีเอส
รพ.ภูมิพล
ม.เกษตรศาสตร์
ม.ศรีปทุม

17
ดอกบัวอบแห้ง: ดอกบัว กับพุทธศาสนา เป็นมากกว่าดอกไม้ที่ความสวยงามเท่านั้น

ดอกบัว กับพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่คู่กันมาโดยตลอด เมื่อเราไปวัด หรือ สถานที่ปฎิบัติธรรม เรามักจะ สังเกตเห็นว่าสิ่งที่พุทธศาสนิกชนนำมากราบและถวายบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องมีดอกบัวเป็นดอกไม้พุทธบูชาประเภทหนึ่งอยู่เสมอ และเราก็มักจะได้ยินถึงการเปรียบเทียบดอกบัวกับมนุษย์ที่บอกว่า

บัวนั้นมี ๔ เหล่าหรือ ๔ ประเภท อันได้แก่ บัวก้นบึ้ง บัวใต้น้ำ บัวปริ่มน้ำ

และบัวพ้นน้ำ อันมีความหมายแยกแยะได้ดังนี้

1.    บัวก้นบึ้ง เปรียบเทียบกับ โมฆะบุรุษ มนุษย์ที่เกิดมาสูญเปล่า ไม่รู้ผิดหรือชอบ ไม่เกรงกลัวในบาปกรรม

2.    บัวใต้น้ำ เปรียบเทียบกับ บุคคลที่ยังรู้ผิดชอบชั่วดีบ้าง มีศีลบ้าง บุคคลกลุ่มนี้หากได้กัลยาณมิตรที่ดี ก็จะมีโอกาส มีความเจริญรุ่งเรือง กลายเป็นบัวปริ่มน้ำได้

3.    บัวปริ่มน้ำ เปรียบเทียบกับ บุคคลที่มีศีล รู้จักการรักษาศีล ๕ ให้คงไว้ รู้จักมีเมตตา เผื่อแผ่ ถือศีล ๕ ได้ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง แต่พยายามหมั่นฝึกฝน และมีโอกาสเป็นผู้เจริญแล้วได้ไม่ยาก

4.    บัวพ้นน้ำ เปรียบเทียบกับ ผู้รักษาศีล ๕ ได้ครบถ้วน และไม่ละเลยการเพียรทำความดี เป็นผู้เจริญแล้ว

บัวนั้นมี ๔ เหล่าหรือ ๔ ประเภท

ดอกบัวที่เราใช้กราบไหว้บูชา จึงมีความหมายและนัยมากกว่าการเป็นเพียงดอกไม้ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ความสวยงามไว้เพียงเท่านั้น หากกล่าวไปถึงในอดีต ดอกไม้หลากหลายชนิดบนโลกใบนี้อาจจะไม่ได้มีไว้เพียงแค่เป็นตัวแทน การกราบไหว้ เคารพนับถือบูชาเท่านั้น แต่ความงามของดอกไม้เป็นเสมือนอาภรณ์ที่ประดับร่างกาย เพื่อให้เกิดความสวยงาม เพราะดอกไม้ไม่ได้มีเพียงรูปลักษณ์ที่งดงามท่านั้น แต่ดอกไม้ทุกชนิดบนโลกใบนี้ยังมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจอีกด้วย การนำดอกไม้มาประดิษฐ์เป็นอาภรณ์ หรือประดับร่างกาย ยังทำให้มีกลิ่นหอมหวน และจิตใจผ่องใสเบิกบานได้เช่นกัน นอกจากนี้ในบรรดาเครื่องหอมทั้งปวงของคนสมัยโบราณ อาทิ เช่น น้ำอบ น้ำปรุง(น้ำหอมแบบไทยๆ) ก็ยังมีกลิ่นที่สกัดมาได้จากดอกไม้นานาพรรณ ไม่ว่าจะเป็น กุหลาบ มะลิ จำปี จำปา ชมนาด กระดังงา ราตรี แม้แต่ดอกบัว ก็มีกลิ่นหอมเช่นกัน

ดอกไม้จึงเหมาะกับทั้งนำมาประดับบ้านเรือนให้สวยงาม ดูสดใส และนิยมนำมาถวายเป็นพุทธบูชาในศาสนสถานต่างๆ การนิยมชมชอบดอกไม้ประเภทใด ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มคนในชาตินั้นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ชาวอาทิตย์อุทัยนิยมดอกซากุระ สะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เพราะ ดอกซากุระ เมื่อบานก็จะบานพร้อมกัน และเมื่อถึงเวลาร่วงโรย ก็ร่วงพร้อมกันเสมอ ในประเทศไทยของเรา ดอกประดู่ ซึ่งเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ความสามัคคี กองทัพเรือมีเพลงดอกประดู่ เพื่อไว้ปลุกใจและสร้างความสามัคคี และหากพูดถึงในประเทศอินเดีย ประเทศต้นกำเนิดศาสนาที่สำคัญของโลก อันได้แก่ ศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธ ดอกบัว เป็นดอกไม้ที่ได้รับเกียรติอันสูงสุด เพราะได้รับการเปรียบเทียบ ดอกบัว กับพระพุทธเจ้า หรือ แม้แต่สาวกของพระพุทธเจ้า หากเรานึกถึงภาพตอนพระพุทธเจ้าประสูติ พระองค์ทรงก้าวย่างไปบน ดอกบัว หรือแม้แต่เทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ ก็ยังมีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเทพเจ้าและ ดอกบัว

ดอกบัว กับพระพุทธ  สำหรับพุทธศาสนา ดอกบัวมีความสำคัญมากในแง่ของการเป็นตัวแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะสั่งเกตได้ว่า ไม่ว่าพระพุทธองค์จะประทับในพระอิริยาบถใดก็ตาม เช่น นั่ง นอน หรือ ยืน ดอกบัวจะเป็นส่วนฐานที่คอยรองรับพระวรกายของพระพุทธองค์เสมอ ดอกบัวเปรียบเทียบได้กับความบริสุทธิ์ แม้แต่น้ำค้างก็ไม่สามารถทำให้บัวเปียกได้ จึงมีคนโบราณมักพูดว่า น้ำย่อมไม่ค้างบนใบบัว เปรียบเทียบกับพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ แม้จะเกิดมาในชมพูทวีป โลกของมนุษย์ที่มีทั้งกิเลส ความโลก ความโกรธ และความหลง แต่ทั้งหมดก็ไม่สามารถทำให้พระหฤทัยของพระพุทธองค์แปดเปื้อนได้เลยแม้แต่น้อย หากเราสังเกตให้ชัดแจ้งถึงภูมิปัญญาของคนโบราณในการสร้างถาวรวัตถุ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เช่นการสร้างพระพุทธรูป ก็มักจะมีดอกบัวเป็นฐานรองรับอยู่เสมอ และลักษณะของดอกบัวนั้นยังแฝงไปด้วยการเปรียบเทียบที่เกี่ยวข้องกับบัวทั้ง ๔ เหล่าที่กล่าวถึงในข้างต้นด้วย ดังจะอธิบายเล่าได้ดังนี้คือ ฐานดอกบัวมักจะเป็นบัวซ้อนกัน ๒ ชั้น คือ มีกลีบบัวคว่ำ และกลีบบัวหงาย ลักษณะของกลีบบัวหงาย ก็คือ ตัวดอกบัวที่บานรองรับพระพุทธองค์ และในส่วนของกลีบบัวคว่ำ คือ เงาของดอกบัวที่บานอยู่ในน้ำนั่นเอง คนโบราณช่างคิด และทำให้เราสามารถเข้าใจถึงความละซึ่งกิเลสทั้งปวง ความเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากซึ่งกิเลสของพระพุทธองค์

 ดอกบัว คือดอกไม้ที่บอบบาง หากน้ำในตมหรือโคลนเหือดแห้ง ดอกบัวก็มีสิทธิ์ที่จะเหี่ยวแห้งและตายได้ในที่สุด และไม่เพียงแต่ลักษณะของดอกบัวเท่านั้นทีมีนัยและมีความหมายถึงพระพุทธเจ้า แต่สีของบัวนั้นยังมีหลากหลาย และสอดคล้องกับรัศมีของพระพุทธองค์ หรือ ฉัพพรรณรังสี ถึง ๖ ประการ หากกล่าวถึงพระรัศมีพระวรกายของพระพุทธองค์อย่างเดียว ก็สามารถเทียบกับสีของดอกบัว ๔ สี ได้แก่ บัวแดง, บัวขาว, บัวเขียว และบัวสีเหลือง และในการเปรียบเทียบดอกบัวกับพระสงฆ์ สาวกในพระพุทธเจ้า ผู้เผยแผ่คำสอนของศาสนาพุทธ ก็เช่นกัน ผู้ใดก็ตามแม้เกิดในชนชั้นวรรณะที่ต่ำด้อย อย่างในประเทศอินเดีย ที่ถือเอาเรื่องชนชั้นมาเป็นการแบ่งแยกอย่างจริงจังและรุนแรง ก็สามารถเป็นผู้มีคุณค่าได้ เมื่ออยู่ภายใต้ร่มกาสาวพักตร์ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ใฝ่รู้ในธรรม ถือศีลครบถ้วนบริบูรณ์จนน่าเคารพเลื่อมใส การได้บวชเป็นพระสงฆ์ ตัวแทนผู้เผยแผ่คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ถือว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมแล้ว และมีความพร้อมในการสละเรื่องทางโลก เปรียบเทียบได้กับ ดอกบัวที่ใช้บูชาพระพุทธเจ้าเช่นกัน

แต่การเป็นดอกบัวที่บริสุทธิ์ของพระสงฆ์นั้น ต้องผ่านการฝึกฝน ทดสอบกิเลสทางใจพอสมควร หากไม่สามารถละได้ซึ่งกิเลส และความมัวเมาในทางโลกได้แล้ว ก็ย่อมไม่สามารถเป็นดอกบัวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ดอกบัวตัวแทนของพระพุทธเจ้า ผู้เผยแผ่คำสอนพุทธศาสนาได้แม้แต่น้อย เพราะดอกบัว คือดอกไม้ที่บอบบาง หากน้ำในตมหรือโคลนเหือดแห้ง ดอกบัว ก็มีสิทธิ์ที่จะเหี่ยวแห้งและตายได้ในที่สุด เช่นเดียวกับพระสงฆ์ที่มีความตั้งใจประพฤติปฏิบัติศีลอย่างเคร่งครัด แต่กลับมีอุปสรรคอื่นๆ บั่นทอนความตั้งใจจนต้องลาสิกขาไป หรือแม้แต่พระสงฆ์ ที่เจ็บไข้ได้ป่วยจนไม่สามารถรักษาสมณเพศได้อีก เปรียบได้กับ ดอกบัวที่ถูกแมลง หนอนกัดกินจนตายไปนั่นเอง ดังนั้นการจะเป็น ดอกบัว ที่บริสุทธิ์ได้นั้น ต้องเคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง

หากกล่าวถึงในเชิงศิลปะวัตถุ หรือ สถาปัตยกรรม ดอกบัวยังมีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามากมาย ลองคิดง่ายๆ เพียงแค่ก้าวเข้าไปในวัด เราก็สามารถพบเห็น ดอกบัว ในรูปแบบศิลปวัตถุได้แล้ว ไม่ว่าจะประดับตามเสาวิหาร พระอุโบสถ ภาพจิตรกรรมตามอ่างบัว หรือบนฝาผนังในพระอุโบสถ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น กระถางธูป โคมไฟ พุ่มเทียน ก็ยังมีลักษณะเป็นรูปดอกบัวทั้งสิ้น

ดอกบัว กับพระพุทธศาสนา จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแยกขาดจากกันได้ เพราะดอกบัวเปรียบเป็นได้ทั้ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสาวกของพระพุทธเจ้า ศิลปวัตถุ ศิลปะไทยในทุกแขนง นัยและความหมายของดอกบัวเพียง ๑ ดอก ยังมีความหมายมากมายในเชิงพุทธศาสนา เช่น คำสอนในการรักษาตนให้เป็นคนดี ยังสามารถแบ่งแยก ความเป็นบุคคลจากบัว ๔ ประเภทได้ คำสอนเหล่านี้มีนัย และความหมายที่ลึกซึ้ง การเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้ จึงเป็นการฝึกฝน ละ ลด กิเลสในใจได้อย่างแท้จริง เพราะศาสนาพุทธสอนบนหลักของสิ่งที่เรียกว่า เหตุ และ ผล เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ 'ดอกบัว' จึงเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา โดยแยกไม่ออก เพียงพิจารณาดอกบัวเพียงดอกเดียว เราอาจจะเข้าใจได้ถึงหลักธรรมข้อแรกในทันที คือ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เหมือนดอกบัวตูม เมื่อแรกบาน และยามเหี่ยวเฉาจนตายจากไปนั่นเอง


18
หมอออนไลน์: โรคหัวใจและหลอดเลือดกับยาบรรเทาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์

ยาบรรเทาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เป็นยาที่ต้องใช้อย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด   

ยาบรรเทาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์คืออะไร?

     ยาบรรเทาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ สามารถเรียกย่อ ๆ ว่า “เอ็นเสด (NSAIDs)” มีชื่อเต็มคือ “non-steroidal anti-inflammatory drugs” ออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เรียกว่า “ไซ-โคล-ออก-ซี-จิ-เนส (cyclooxygenase) หรือค็อกซ์ (COX)” ซึ่งมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่ 1 (หรือ COX-1) และชนิดที่ 2 (หรือ COX-2) โดยเมื่อยายับยั้งการทำงานของเอนไซม์ดังกล่าว จะส่งผลลดการสร้างสารก่อการอักเสบและความปวด ทำให้การอักเสบลดลงและหายปวดได้

ยากลุ่มนี้แบ่งตามความสามารถในการยับยั้ง COX แต่ละชนิด ดังแสดงในตาราง ซึ่งช่วยทำให้ทำนายอาการไม่พึงประสงค์ต่อหัวใจและหลอดเลือดของยาแต่ละชนิดได้

ตารางการแบ่งกลุ่มยา NSAIDs ตามความสามารถในการยับยั้ง COX แต่ละชนิด

ผลของยากลุ่ม NSAIDs ต่อหัวใจและหลอดเลือด

     1. ผลต่อการทำงานของไตและโรคความดันโลหิตสูง (hypertension)

     ยากลุ่ม NSAIDs ส่งผลให้หลอดเลือดในร่างกายหดตัวโดยเฉพาะหลอดเลือดที่ไต ทำให้การทำงานของไตลดลง อาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้ในผู้ป่วยบางราย (พบประมาณร้อยละ 4) รวมถึงยังมีผลลดการขับออกของโซเดียมและน้ำจนเกิดการคั่งของน้ำในร่างกาย ทำให้มีความดันโลหิตสูงขึ้น 5 - 6 มิลลิเมตรปรอท หลังจากรับประทานยาติดต่อกันเป็นระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และส่วนใหญ่ความดันโลหิตจะกลับมาเป็นปกติ ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากหยุดยา

     2. ผลต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด (thrombosis)

     ยา NSAIDs ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ได้มากอาจทำให้เกล็ดเลือดเกาะกลุ่มกันได้ง่ายขึ้น เพิ่ม ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดมากกว่ายาที่ยับยั้งเอนไซม์ COX-1 ได้ดี ซึ่งอาจส่งผลต่อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอด ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ภาวะหลอดเลือดสมองตีบตัน ภาวะอุดตันของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย และภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย โดย NSAIDs แต่ละชนิดเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าวได้แตกต่างกัน เช่น ผู้ป่วยที่รับประทานยา NSAIDs ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ได้มาก ตั้งแต่ 4 วันขึ้นไปต่อเดือน เป็นระยะเวลา 5 ปี พบว่ามีความเสี่ยงของการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยา 2 เท่า ส่วนผู้ที่ใช้ยา NSAIDs กลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ COX แบบไม่จำเพาะเจาะจง จะมีความเสี่ยงของการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้ยา 1.3 เท่า นอกจากนี้เมื่อพิจารณาเฉพาะการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย พบว่าผู้ที่ใช้ยา NSAIDs ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ได้มาก จะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่ใช้ยา NSAIDs ในกลุ่มที่ยับยั้งเอนไซม์ COX แบบไม่จำเพาะเจาะจงประมาณ 1.5 เท่า

     3. ผลต่อโรคหัวใจล้มเหลว (heart failure)

     ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันสามารถเกิดได้จากผลของยา NSAIDs ที่ทำให้เกิดการคั่งของน้ำ อีกทั้ง ความดันโลหิตที่สูงขึ้นส่งผลให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น หรือเกิดจากผลของยา NSAIDs ที่ทำให้มีลิ่มเลือดหรือ เกิดก้อนเลือดอุดตันบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจนถึงกล้ามเนื้อตายได้ ดังนั้นสาเหตุที่กล่าวมานี้สามารถทำให้ผู้ป่วยเกิดโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ นอกจากนั้นการเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน ความดันโลหิตสูง และภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดยังสามารถเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ผู้ป่วย หัวใจล้มเหลวเรื้อรังมีอาการแย่ลงและเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ ซึ่งพบว่ายา NSAIDs เป็นสาเหตุกระตุ้น การกำเริบของภาวะหัวใจล้มเหลวประมาณร้อยละ 32

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดในการใช้ยากลุ่ม NSAIDs

     ข้อมูลต่อไปนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นทั่วไป ผู้ป่วยแต่ละรายล้วนมีสภาวะเฉพาะตัวซึ่งทำให้เหมาะหรือไม่เหมาะสมในการใช้ยาแตกต่างกันไป จึงควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาเหล่านี้

    ยา NSAIDs ชนิดทาภายนอก สามารถใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเป็นยาใช้เฉพาะที่จึงดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้น้อย และไม่ทำให้เกิดผลที่ได้กล่าวไปข้างต้น
    แนะนำให้ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงหลีกเลี่ยงการใช้ยา NSAIDs และหากจำเป็นต้องใช้ แนะนำให้รับประทานยาขนาดต่ำที่สุดที่สามารถบรรเทาอาการปวดและอักเสบได้ และไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 1 - 2 สัปดาห์ พร้อมทั้งวัดติดตามความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่ารับประทานยาแล้วมีความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าปกติ ควรหยุดยาแล้วรีบไปพบแพทย์
    เมื่อรับประทานยา NSAIDs แนะนำดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปที่ไต ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไตวายเฉียบพลันได้ ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีโรคร่วมที่ต้องจำกัดปริมาณน้ำในแต่ละวันควรจำกัดน้ำตามคำแนะนำของแพทย์
    ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการใช้ยา NSAIDs เนื่องจากยาอาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้
    ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันมันในเลือดสูง หรือมีโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ อยู่ก่อน เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่ม NSAIDs ชนิดที่มีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์ COX-2 ได้มาก เช่น เซเลค็อกสิบ เอทอริค็อกสิบ พาเรค็อกสิบ เป็นต้น
    หากผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดจำเป็นต้องใช้ยากลุ่ม NSAIDs แนะนำให้ใช้ยานาพร็อกเซนในขนาดต่ำที่สุดและใช้เป็นระยะเวลาสั้นที่สุด เนื่องจากมีการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามีความปลอดภัยในผู้ป่วยกลุ่มนี้มากกว่ายา NSAIDs ชนิดอื่น

     “ยาบรรเทาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์” ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้น มีทั้งประโยชน์และโทษ โดยเฉพาะหากใช้ยาไม่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรงได้ อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เพียงช่วยให้ได้ตระหนัก แต่ไม่ควรตระหนกมากเกินไปเกี่ยวกับยากลุ่มนี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ก่อนใช้ยากลุ่ม NSAIDs ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อให้ได้รับคำแนะนำทั้งเกี่ยวกับการใช้ยาและการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม




19
สุขภาพดี: อาหารปรับอารมณ์ เทรนด์อาหารกินเพื่ออารมณ์ดี ลดความเครียดกำลังมาแรง

แนวคิดเรื่องอาหารปรับอารมณ์ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในแวดวงอาหาร อาหารเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกมาเป็นพิเศษเนื่องจากสามารถส่งผลในเชิงบวกต่ออารมณ์และสุขภาพจิตโดยรวม เมื่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างอาหารและสุขภาพจิตมีความลึกซึ้งมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากขึ้นจึงหันมากินอาหารปรับอารมณ์เพื่อเป็นวิธีธรรมชาติในการเพิ่มสุขภาพจิต

ต่อไปนี้คือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ที่กำลังเติบโตนี้และอาหารบางชนิดที่สามารถช่วยยกระดับจิตใจของคุณได้ เทรนด์การกินที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเน้นการเลือกทานอาหารที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติที่ช่วยปรับปรุงอารมณ์และสุขภาพจิตให้ดีขึ้น เช่น ช่วยลดความเครียด เพิ่มความสุข และปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ


วิทยาศาสตร์เบื้องหลังอาหารปรับอารมณ์

อาหารปรับอารมณ์ไม่ใช่แค่คำฮิตเท่านั้น แต่ยังได้รับการสนับสนุนจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อีกด้วย สมองและร่างกายของเรามีความเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน และอาหารที่เรากินสามารถส่งผลต่อความรู้สึกของเราได้อย่างมาก สารอาหารบางชนิดในอาหารสามารถส่งผลต่อการผลิตสารสื่อประสาท ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ เช่น เซโรโทนินและโดปามีน ตัวอย่างเช่น อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณสูงสามารถช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองและลดการอักเสบ ส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้น


อาหารเพิ่มอารมณ์ดีอันดับต้นๆ

ดาร์กช็อกโกแลต : ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการปรับปรุงอารมณ์อย่างรวดเร็ว เพียงชิ้นเล็กๆ ก็สามารถลดความเครียดและปรับปรุงอารมณ์ของคุณได้

ปลาที่มีไขมัน : ปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาซาร์ดีน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพสมองและสามารถช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าได้

ผลเบอร์รี่ : บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และผลเบอร์รี่อื่นๆ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่ช่วยลดการอักเสบและปรับปรุงการทำงานของสมอง ส่งผลให้มีอารมณ์ดีขึ้น

ถั่วและเมล็ดพืช : อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเจียมีสารอาหารที่จำเป็น เช่น แมกนีเซียม ซึ่งสามารถช่วยลดความวิตกกังวลและส่งเสริมการผ่อนคลายได้

ผักใบเขียว : ผักโขม ผักคะน้า และผักใบเขียวอื่นๆ มีโฟเลตสูง ซึ่งเป็นวิตามินบีที่ช่วยผลิตโดปามีนและเซโรโทนิน ช่วยปรับปรุงอารมณ์และลดอาการซึมเศร้า

อาหารหมักดอง : โยเกิร์ต คีเฟอร์ ซาวเคราต์ และกิมจิมีโปรไบโอติกที่ส่งเสริมให้ลำไส้มีสุขภาพดี ซึ่งเชื่อมโยงกับสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและเสถียรภาพทางอารมณ์

ธัญพืชทั้งเมล็ด : อาหาร เช่น ข้าวโอ๊ต คีนัว และข้าวกล้อง เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ และให้พลังงานอย่างต่อเนื่อง ป้องกันอารมณ์แปรปรวนและความเหนื่อยล้า

กล้วย : กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินบี 6 และน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มการผลิตเซโรโทนินและให้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว

อาหารประเภทใดบ้างที่ช่วยปรับปรุงอารมณ์?
อาหารที่มีกรดอะมิโนทริปโตแฟน: เช่น ไก่ ไข่ ถั่ว ช็อกโกแลตดำ ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
อาหารที่มีวิตามินบี: เช่น ธัญพืช ถั่ว เนื้อสัตว์ ช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและลดความเครียด
อาหารที่มีโอเมก้า 3: เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ถั่ววอลนัท ช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายและปรับปรุงอารมณ์
อาหารที่มีโปรไบโอติก: เช่น โยเกิร์ต กิมจิ ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพจิต
อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ: เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สีสดใส ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายและลดความเครียด


การนำอาหารตามอารมณ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของคุณ

การเพิ่มอาหารที่ช่วยปรับอารมณ์ให้กับอาหารของคุณไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้:
เริ่มวันใหม่ของคุณด้วยสมูทตี้ปั่นเบอร์รี่ ผักโขม กล้วย และโยเกิร์ตเพื่อเริ่มต้นวันใหม่อย่างอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ
รับประทานอาหารว่างอย่างชาญฉลาด : เตรียมถั่ว เมล็ดพืช และช็อกโกแลตดำไว้ให้พร้อม เพื่อเป็นอาหารว่างที่รวดเร็วและช่วยปรับอารมณ์
ใส่ปลาที่มีไขมันในมื้ออาหารของคุณ : ตั้งเป้าหมายที่จะกินปลาที่มีไขมันอย่างน้อยสัปดาห์ละสองครั้ง ลองใส่ปลาแซลมอนในสลัดของคุณหรือทำแซนด์วิชปลาแมคเคอเรล
รับประทานธัญพืชไม่ขัดสี : เปลี่ยนจากธัญพืชขัดสีเป็นธัญพืชไม่ขัดสีในมื้ออาหารของคุณ เลือกรับประทานควินัว ข้าวกล้อง หรือขนมปังโฮลเกรน
อนาคตของอาหารอารมณ์

เมื่อผู้คนเริ่มตระหนักถึงผลกระทบของอาหารที่มีต่อสุขภาพจิตมากขึ้น ความต้องการอาหารที่ช่วยปรับอารมณ์ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น ร้านอาหารและผู้ผลิตอาหารเริ่มตอบสนองต่อกระแสนี้แล้ว โดยนำเสนอเมนูและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับอารมณ์ ในอนาคต เราคาดว่าจะได้เห็นวิธีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ มากขึ้นในการนำอาหารที่ช่วยปรับอารมณ์เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันของเรา

อาหารปรับอารมณ์ไม่ใช่แค่กระแสเท่านั้น แต่ยังเป็นกระแสที่มุ่งสู่สุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดีขึ้นผ่านการรับประทานอาหารอย่างมีสติ การนำอาหารปรับอารมณ์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารของคุณ จะช่วยให้คุณมีแนวทางเชิงรุกในการปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีและใช้ชีวิตที่มีความสุขและสมดุลมากขึ้น ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกหดหู่ ลองหยิบช็อกโกแลตดำหรือถั่วสักกำมือมาทาน แล้วคุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างที่อาหารปรับอารมณ์สามารถมอบให้ได้

20
ตรวจโรค: กลาก (Ring worm/Tinea)

กลาก (ขี้กลาก) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยมากในคนทุกวัย

บางครั้งอาจพบเป็นพร้อมกันหลายคนในบ้าน ในโรงเรียน หรือวัด

เชื้อราพวกนี้สามารถทำให้เกิดโรคตามผิวหนังได้แทบทุกส่วนของร่างกาย

ถ้าพบที่ใบหน้า คอ ลำตัว แขนขา เรียกว่า กลากตามลำตัว (tinea corporis) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยกว่าชนิดอื่น ๆ

ถ้าพบที่ศีรษะ เรียกว่า กลากที่ศีรษะ (tinea capitis) ซึ่งพบมากในเด็ก แต่พบน้อยในผู้ใหญ่ อาจพบในหมู่พระภิกษุ เณร และแม่ชีที่ใช้มีดโกนร่วมกัน

ถ้าพบที่ขาหนีบ เรียกว่า สังคัง (tinea cruris) ซึ่งพบมากในคนที่ร่างกายอับชื้น หรือมีเหงื่อออกมาก ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า ผู้ป่วยเอดส์มักพบโรคกลากชนิดนี้ได้บ่อย

ถ้าพบที่ง่ามนิ้วเท้า เรียกว่า ฮ่องกงฟุต หรือน้ำกัดเท้า (athlete’s foot/tinea pedis) พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่ทำให้อับชื้น นอกจากนี้ยังพบในคนที่เท้าเปียกน้ำบ่อย ๆ (เช่น ย่ำน้ำ) คนที่มีนิ้วเท้าบีบชิดกันตามธรรมชาติ ทำให้ง่ามนิ้วเท้าอับชื้นง่าย

ถ้าพบที่เล็บ เรียกว่า โรคเชื้อราที่เล็บ (เล็บเป็นเชื้อรา) หรือโรคกลากที่เล็บ (tinea unguium) เกิดจากการลุกลามของกลากจากส่วนอื่น หรือได้รับเชื้อมาจากร้านเสริมสวย ซึ่งใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาดทำเล็บ


สาเหตุ

เกิดจากเชื้อราพวกเดอร์มาโตไฟต์ (dermatophyte) เชื้อนี้มีอยู่หลายชนิด ชอบเจริญอยู่เฉพาะในผิวหนังชั้นนอกสุด รวมทั้งเส้นผมและเล็บ

โรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายโดยการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วย (เช่น เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า ผ้าเช็ดตัว หวี) หรือติดมาจากร้านตัดผม ร้านเสริมสวย หรือติดมาจากสัตว์เลี้ยงในบ้าน (เช่น สุนัข แมว)


อาการ

กลากตามลำตัว แรกเริ่มจะเป็นตุ่มแดง ๆ แล้วค่อย ๆ ลามออกไป จนมีลักษณะเป็นวงมีขอบเขตชัดเจน ขอบนูนเล็กน้อยและมีสีแดง มักมีตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ หรือขุยขาว ๆ อยู่รอบ ๆ วง วงนี้จะลุกลามขยายออกไปเรื่อย ๆ ส่วนผิวหนังที่อยู่ตรงกลาง ๆ วง จะมีลักษณะเป็นผิวหนังที่ปกติ เนื่องจากเป็นส่วนที่เป็นก่อนและเริ่มหายแล้ว และอาจขึ้นเป็นวงติด ๆ กันหลายวง หรือเป็นวงซ้อนกัน มักมีอาการคันเล็กน้อย เมื่อเกามาก ๆ อาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียอักเสบแทรกซ้อนได้
 
กลากที่ศีรษะ (เชื้อราที่ศีรษะ) มีอาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ลักษณะเป็นวง ๆ สีเทา หนังศีรษะเป็นขุยขาว ๆ และมีปลายเส้นผมที่หักคาเป็นปลายสั้น ๆ หรือเป็นจุดดำ ๆ มักมีอาการคัน

ในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จะมีเม็ดหนองเกิดขึ้นรอบ ๆ ขุมขน และลุกลามเป็นก้อนนูนใหญ่แล้วแตกออก มีน้ำเหลืองเกรอะกรัง เรียกว่า ชันนะตุ เมื่อหายแล้วมักจะเป็นแผลเป็น ซึ่งไม่มีผมงอกอีกเลย

สังคัง (เชื้อราที่ขาหนีบ) แรกเริ่มจะเป็นตุ่มแดง ๆ ที่ต้นขาหรือขาหนีบ แล้วลุกลามเป็นวงไปที่ต้นขาด้านใน และอวัยวะเพศภายนอก (อัณฑะหรือปากช่องคลอด) หรืออาจลามไปที่ก้น เป็นผื่นมีลักษณะสีแดง มีเกล็ดขาว ๆ และขอบชัดเจน บางรายอาจลุกลามรวมกันเป็นวงขนาดใหญ่ ลักษณะพระจันทร์ครึ่งซีก มีอาการคัน และมักเป็นทั้ง 2 ข้าง


บางรายอาจเกาจนมีน้ำเหลืองเฟะ หรือผิวหนังหนา

เมื่อหายแล้วอาจกำเริบได้ใหม่ มักเป็นในช่วงหน้าร้อนเพราะมีเหงื่ออับชื้น การใส่กางเกงรัดแน่นเกินไป หรือคนที่อ้วนมาก ๆ มีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น

ฮ่องกงฟุต (เชื้อราที่เท้า) มักเป็นที่ง่ามเท้าที่ 3, 4 และ 5 จะขึ้นเป็นขุยขาว ๆ และยุ่ย ต่อมาลอกเป็นแผ่นหรือเกล็ด แล้วแตกเป็นร่องและมีกลิ่น

ถ้าแกะลอกขุยขาว ๆ ที่เปื่อยยุ่ยออก จะเห็นผิวหนังข้างใต้มีลักษณะแดง ๆ และมีน้ำเหลืองซึม

มักมีอาการคันยิบ ๆ ร่วมด้วย

บางรายอาจลามไปที่ฝ่าเท้าหรือเล็บเท้า มีอาการฝ่าเท้าลอกเป็นขุยขาว ๆ หรือเป็นตุ่มพองใหญ่และคันมาก

โรคกลากที่เล็บ ถ้าเป็นที่เล็บเท้ามักเกิดจากโรคฮ่องกงฟุตที่เป็นเรื้อรัง จะเป็นที่นิ้วก้อยมากกว่านิ้วอื่น ๆ เล็บจะด้านไม่เรียบตรง และมีลักษณะขุ่น ต่อมาเล็บจะหนาขึ้น และผุกร่อนทั้งเล็บ

ถ้าเป็นที่เล็บมือ มักมีอาการของโรคเชื้อราที่บริเวณอื่นมาก่อน หรือติดเชื้อจากร้านเสริมสวย (แต่งเล็บด้วยเครื่องมือไม่สะอาด) เล็บจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง น้ำตาล ขาวขุ่น ๆ เป็นหย่อม ๆ ทำให้มีลักษณะขรุขระและยุ่ย เล็บจะแยกจากหนังใต้เล็บ ถ้าเป็นมากเล็บจะผุกร่อนทั้งเล็บ บางรายอาจพบเป็นเกือบทุกเล็บ


ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

ที่พบบ่อยคือ เชื้อราอาจแพร่กระจายไปหลายจุด

หากมีการเกาจนผิวหนังมีรอยแผล อาจทำให้มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นโรคกลากที่ศีรษะ อาจทำให้เกิดแผลเป็น ซึ่งไม่มีผมงอก


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการ และการตรวจลักษณะของรอยโรค

หากไม่แน่ใจ จะทำการวินิจฉัยโดยการขูดเอาขุย ๆ ของผิวหนังส่วนที่เป็นโรค ใส่น้ำยาโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ชนิด 10% แล้วนำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้าเป็นกลากจะตรวจพบเชื้อราที่เป็นสาเหตุ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าเป็นที่ลำตัว แขนขา ขาหนีบ ง่ามเท้า หรือฝ่าเท้า ทาด้วยขี้ผึ้งรักษากลากเกลื้อน หรือครีมรักษาโรคเชื้อรา (เช่น โคลไตรมาโซล คีโทโคนาโซล) วันละ 2-3 ครั้ง ถ้าดีขึ้นควรทาติดต่อกันทุกวันนาน 3-4 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพื่อรอให้ผิวหนังที่ปกติงอกขึ้นมาแทนที่

ในรายที่เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง หรือแผ่บริเวณกว้าง อาจต้องรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อราชนิดกิน เช่น กริซีโอฟุลวิน (griseofulvin) นาน 4-6 สัปดาห์ หรือไอทราโคนาโซล (itraconazole) นาน 7-15 วัน

สำหรับผู้ป่วยฮ่องกงฟุต ควรล้างเท้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง อย่าปล่อยให้อับชื้น ควรใส่รองเท้าสานโปร่ง (เปิดเล็บเท้า) แทนการสวมถุงเท้าและรองเท้าอย่างมิดชิด

2. ถ้าเป็นเชื้อราที่ศีรษะ ให้กินยาฆ่าเชื้อรา เช่น กริซีโอฟุลวิน นาน 4-6 สัปดาห์ หรือไอทราโคนาโซล นาน 4 สัปดาห์

ควรตัดผมให้สั้น สระผมด้วยแชมพูคีโตโคนาโซล สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

3. ถ้าเป็นที่เล็บมือ ให้กินกริซีโอฟุลวิน นาน 4-9 เดือน หรือไอทราโคนาโซล นาน 2 เดือน บางครั้งอาจต้องถอดเล็บและทาครีมรักษาโรคเชื้อรา

4. ถ้าเป็นที่เล็บเท้า ให้ไอทราโคนาโซล นาน 3 เดือน บางครั้งอาจต้องถอดเล็บและทาครีมรักษาโรคเชื้อรา


การดูแลตนเอง

1. ถ้ามั่นใจหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นกลากที่ลำตัว แขนขา ขาหนีบ ง่ามเท้า หรือฝ่าเท้า ควรดูแลตนเองดังนี้

    ทาด้วยขี้ผึ้งรักษากลากเกลื้อน หรือครีมรักษาโรคเชื้อรา (ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร) วันละ 2-3 ครั้ง ถ้าดีขึ้นควรทาติดต่อกันทุกวันนาน 3-4 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพื่อรอให้ผิวหนังที่ปกติงอกขึ้นมาแทนที่
    ควรปรึกษาแพทย์ ถ้าไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ หรือรอยโรคลุกลามมากขึ้น หรืออักเสบเป็นหนอง หรือมีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง

2. ถ้าสงสัยเป็นกลากที่ศีรษะ (ผมร่วงเป็นหย่อมเป็นวงสีเทา ๆ) หรือที่เล็บ (เล็บผุกร่อน) ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคกลาก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยารักษาเชื้อรา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัดจนกว่าจะหายขาด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์
    รอยโรคลุกลามมากขึ้น หรืออักเสบเป็นหนอง
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. อย่าคลุกคลีหรือใช้ของ (เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า หวี แปรงผม มีดโกนผม เป็นต้น) ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคนี้

2. อาบน้ำฟอกสบู่ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และเช็ดตัวให้แห้ง ระวังอย่าให้มีเหงื่ออับชื้นอยู่เสมอ

3. หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ หรืออบเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอากาศร้อน หรือมีเหงื่อออกง่าย

4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยง (เช่น สุนัข แมว) ที่เป็นขี้กลาก

5. สำหรับโรคสังคัง อาจป้องกันได้โดยหลีกเลี่ยงการใช้กางเกงในที่รัดแน่นหรืออบเกินไป ถ้าอ้วนควรลดความอ้วน หลังอาบน้ำควรเช็ดบริเวณนั้นให้แห้ง และใช้แป้งธรรมดาโรย

6. สำหรับโรคฮ่องกงฟุต อาจป้องกันได้โดยอย่าใส่รองเท้าและถุงเท้าที่เปียกชื้น ควรใส่ถุงเท้าที่ทำจากผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงถุงเท้าที่ทำจากไนลอนหรือใยสังเคราะห์ซึ่งอบเกินไป หลังอาบน้ำควรเช็ดบริเวณง่ามเท้าให้แห้ง ถ้าซอกเท้าเปียกน้ำ (เช่น ย่ำน้ำ) หรือมีเหงื่อออกมาก ควรล้างเท้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง


ข้อแนะนำ

1. โรคเชื้อราอาจพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเอดส์ เบาหวาน หรือกินยารักษามะเร็งเป็นประจำ เป็นต้น ถ้าพบผู้ที่เป็นโรคเชื้อราเรื้อรัง ควรค้นหาสาเหตุและแก้ไข

2. หลีกเลี่ยงการซื้อยาครีมสเตียรอยด์ (แก้แพ้แก้คัน) หรือยาอื่นที่ไม่ใช่ยารักษาเชื้อรา หรือยารักษา
โรคกลากเกลื้อนที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำมาใช้เอง เนื่องเพราะครีมสเตียรอยด์อาจทำให้โรคลุกลามได้ ส่วนยาน้ำที่ทาแล้วที่รู้สึกแสบ ๆ อาจทำให้ผิวหนังไหม้และอักเสบได้

3. หากสงสัยโรคเชื้อราที่เล็บ (เล็บผุกร่อน) ลองให้ยารักษาโรคเชื้อราแล้วไม่ได้ผล ควรสงสัยว่าอาจ
เป็นโรคโซริอาซิส (อ่าน "โรคโซริอาซิส/โรคสะเก็ดเงิน/โรคเกล็ดเงิน" เพิ่มเติม)



21
7 สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนจัดงานเลี้ยง งานจัดเลี้ยงนอกสถานที่

1. วันเวลาที่จะจัดงาน และจำนวนแขกที่น่าจะมาร่วมงาน วัยของผู้ร่วมงาน ถ้างานปาร์ตี้ของคุณผู้ร่วมงานมีวัยต่างกันลักษณะของงาน และอาหารก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างไปอีกด้วย

2. ก่อนการจัดงานอย่าลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ครบ จะต้องไม่จ่ายเกินงบประมาณที่เราตั้งไว้โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วค่าใช้จ่ายในปาร์ตี้ครั้งนี้จะบานปลาย จากที่จะสนุกก็จะกลายมาเป็นกุมขมับหลังงานเลี้ยงนั่นเอง

3. เตรียมการจัดตกแต่งสถานที่ ไม่ว่าจะเป็น ลูกโป่ง ดอกไม้ ริบบิ้น หรือ โบ กระดาษสี กระดาษริ้ว เลือกให้เหมาะกับแขกที่จะมางาน ถ้าเป็นงานที่มีเด็กๆ ด้วย ลูกโป่ง และกระดาษริ้วสีๆ ช่วยสร้างสีสันให้กับงานได้เป็นอย่างดี ไม่น่าเบื่อ ทำให้เด็กๆ สนุกกับงาน และสามารถเดินถือลูกโป่งกลับบ้านหลังจากงานเลิกได้ด้วย

4. เตรียมรายการอาหาร และเครื่องดื่มที่จะให้บริการ จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องใช้อย่าง แก้วพลาสติก จานกระดาษ เพื่อช่วยลดการเก็บกวาดหลังงานเลี้ยง ในกรณีที่จะจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทลให้ลูก คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถที่จะดัดแปลงให้เหมาะสมกับเด็ก เพื่อให้เด็กๆ สนุกสนานอย่างเต็มที่

5. อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเตรียมน้ำแข็งให้เพียงพอ สำหรับเมืองร้อนอย่างบ้านเรา น้ำแข็งถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเครื่องดื่มอย่างมาก บางคนมองเลยข้ามไปทำให้ปาร์ตี้สะดุดไม่ราบรื่น เพียงเพราะน้ำแข็งไม่เพียงพอ ดังนั้นประเมินการใช้น้ำแข็งให้ดี อย่าลืมนึกถึงด้วยว่าน้ำแข็งสามารถละลายได้ ดังนั้นควรเตรียมเผื่อไว้มากกว่าเตรียมไว้พอดี

6. เตรียมเพลงไว้สัก 100-150 เพลง เลือกระดับของเพลงให้เหมาะกับแขกที่มาในงาน ไม่ต้องเปิดเสียงดังมาก เพียงแค่เปิดคลอในงานไปด้วยขณะปาร์ตี้ก็สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ร่วมงานได้แล้ว

7. จัดเตรียมกิจกรรมอื่นๆ ไว้เสริม หากมีเวลาในการให้แขกได้ร่วมสนุก เช่นการจับสลากรางวัล เหยียบลูกโป่ง เตรียมอุปกรณ์ตกแต่งเสริมต่างๆ เช่น หมวกกระดาษ ป้ายชื่อสติ๊กเกอร์ติดหน้าอก ดอกไม้ หรือลูกโป่งที่ใช้ตกแต่ง


เคล็ดลับการจัดเลี้ยงงานแต่งงานให้ประหยัดงบ

การจัดเลี้ยงงานแต่งงานเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและความพิเศษของคู่บ่าวสาว แต่ทำให้งานแต่งงานสมบูรณ์แบบในงบประมาณที่กำหนดไว้ก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย นี่คือเคล็ดลับในการจัดเลี้ยงงานแต่งงานให้ประหยัดงบ:

1.    กำหนดงบประมาณ: เริ่มต้นด้วยการกำหนดงบประมาณเป็นอย่างแรก แล้วแบ่งงบประมาณออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น สถานที่, อาหาร, ชุด, ดอกไม้, และอื่น ๆ

2.    เลือกวันและเวลาที่ไม่ได้เป็นฤดูกาลแต่งงาน: จัดงานในช่วงเวลาหรือเดือนที่ไม่ใช่ฤดูกาลแต่งงานยอดนิยมจะช่วยลดต้นทุนได้ เช่น จัดในช่วงวันธรรมดา

3.    เลือกสถานที่ที่มีความหมาย: สถานที่ที่มีความหมายเช่น บ้านของครอบครัว, สวนสาธารณะ, หรือสถานที่ที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสูง

4.    จัดซื้อเอง: ลองดูว่าสิ่งใดบ้างที่คุณสามารถทำเองได้ เช่น การทำการ์ดเชิญ, การตกแต่ง, หรือการสร้างสิ่งตกแต่ง

5.    จำกัดจำนวนแขก: คิดเกี่ยวกับจำนวนแขกที่จะเชิญ การจำกัดจำนวนแขกช่วยลดต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม

6.    ซื้อชุดแต่งงานที่มีราคาประหยัด: หาชุดแต่งงานในร้านที่มีโปรโมชั่น, ร้านขายชุดมือสอง หรือเช่าชุดแต่งงาน

7.    เลือกดอกไม้ในฤดูกาล: ดอกไม้ในฤดูกาลมักจะถูกกว่า และสามารถใช้ดอกไม้ที่ง่ายต่อการหาได้

8.    เลือกเครื่องดื่มที่ประหยัด: หากคุณเลือกจัดเลี้ยงเอง, ลองเลือกเครื่องดื่มที่ไม่แพง หรือจำกัดเครื่องดื่มเป็นประเภทบางประเภทเท่านั้น

9.    เรียกร้องความช่วยเสริม: มีเพื่อนหรือครอบครัวที่สามารถช่วยเหลือในบางส่วนของงาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ, การดูแลเสียง, หรือการตกแต่ง

10.    เปรียบเทียบราคา: อย่าลืมเปรียบเทียบราคาบริการต่างๆ เช่น การจ้างวงดนตรี, ร้านอาหาร, และการขนส่ง

11.    ตกแต่งสถานที่ให้เรียบง่าย การตกแต่งสถานที่ก็เป็นค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งในการจัดงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวควรเลือกการตกแต่งสถานที่ให้เรียบง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การใช้ดอกไม้สดหรือดอกไม้ประดิษฐ์

12.    วางแผนล่วงหน้า การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้คู่บ่าวสาวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เช่น การจองสถานที่จัดเลี้ยงและอาหารล่วงหน้า

13.    ยอมลดบางอย่าง บางครั้งคู่บ่าวสาวอาจต้องยอมลดบางอย่างเพื่อให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ เช่น ลดความหรูหราของงานแต่งงานหรือลดจำนวนแขกที่มาร่วมงาน

แต่สุดท้าย, ความสำคัญที่สุดคือความรู้สึกและความจำเป็นของวันนั้น การจัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด แต่ความรู้สึกและความทรงจำที่คู่บ่าวสาวได้รับนั้นคือสิ่งที่มีค่าที่สุด.

22
รถกระบะรับจ้าง รถรับจ้างอุทัยธานี ยินดีให้บริการ

เคยมีคำถามในใจไม่ว่า รถรับจ้างอุทัยธานีที่อยู่ใกล้สุด นานแค่ไหนที่ไม่ได้ใช้บริการรับจ้างขนของ ทั้ง รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถรับจ้างขนของย้ายบ้าน รถรับจ้างขนย้ายห้อง รถสิบล้อรับจ้าง หรือรถรับจ้างขนาดใหญ่ที่เป็นรถเทรลเลอร์รับจ้าง ไม่ว่าจะเป็นงาน รับจ้างขนของ ขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ขนส่งสินค้า หรือ รับจ้างขนย้ายทั่วไป การที่จะได้รถรับจ้างที่อยู่ใกล้บ้านเรามากที่สุดนั้น เราต้องเริ่มจากการค้นหาคำที่มีความชัดเจน ว่าต้องการใกล้ที่ไหนมากสุด หรืออยากได้ให้รถรับจ้างไปขนของให้ที่เราที่จุดไหน ก็ระบุในคำค้นหาคำนั้นได้เลยทันที เช่น ขนย้ายของที่อุทัยธานีก็ใช้คำว่า “รถรับจ้างอุทัยธานี” และอีกความสำคัญนั่นคือการขนย้ายของที่นี่ เราจะขนย้ายเองหรือจะจ้างรถรับจ้างอุทัยธานีมาช่วยเราในการย้ายของ สาเหตุมาจากอะไรบางครั้งเราเคยถามตัวเองว่า ในการขนย้ายของในแต่ละครั้งเรามีความจำเป็นมากแค่ไหนที่จะต้องใช้รถขนของของเราเอง หรือจะต้องไปทำการขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองเท่านั้น อีกมุมนึงเราก็มองว่าในเมื่องานบริการสิ่งเหล่านี้ ก็มีให้บริการอยู่มากมายอยู่แล้ว ความเป็นมืออาชีพก็ย่อมที่จะ มีมากกว่าเราอย่างแน่นอน เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะทำการขนย้ายของด้วยตัวเราเอง แล้วทำไมเราจึงต้องมาขนย้ายสินค้าด้วยตัวเราเองในเมื่องานบริการเหล่านี้มีให้มาแต่ช้านาน ต้องบอกก่อนว่าเมื่อเราได้พิจารณาถี่ถ้วนดูแล้วหลายๆครั้งที่เราคิดอยากจะลดต้นทุนการขนย้ายของหรือต้องการที่จะประหยัด เพราะเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้เราต้องรู้จักใช้เงินและประหยัดให้มากขึ้น จึงอยากที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเอง ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้บริการรถรับจ้างขนของแต่อย่างใด

เมื่อครั้งหนึ่ง เราเคยคิดแบบนี้และได้ตัดสินใจที่จะขนย้ายของด้วยตัวเราเองโดยที่ไม่เรียกใช้บริการ รถรับจ้าง ตอนนั้นเป็นงาน ขนย้ายบ้าน ดูจากปริมาณสินค้าแล้วมีเพียงแค่ที่นอน ตู้เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ให้เพื่อนมาช่วยกันยกประมาณ 3 คนก็น่าที่จะจบ แต่พอถึงวันเวลาที่ขนย้ายกลับกลายเป็นว่ามีเพื่อนมาช่วยยกแค่ 2 คน ทำให้วันนั้นต้องเหนื่อยกับการขนย้ายของเป็นอย่างมากรู้สึกปวดเมื่อยและเหนื่อยล้า คิดอยู่เสมอว่าวันนั้นทำไมเราถึงไม่เลือกใช้บริการรถรับจ้าง เห็นเพียงแค่ว่ามีรถของตัวเองและอยากที่จะประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้นเองเหรอแล้วมันคุ้มกับการ ต้องมาปวดเมื่อยหรือเจ็บร่างกายหรือเปล่า พร้อมกับสินค้า มีการชำรุดเป็นรอยเพราะแรงที่เรายกนั้นไม่ไหวจริงๆ จึงทำให้เรารู้สึกเข็ดกับสิ่งที่เกิดขึ้น


มาวันนี้ เมื่อเราต้องการที่จะใช้บริการ รถรับจ้างขนย้ายสินค้าจังหวัดอุทัยธานี อีกครั้ง บอกได้เลยทันทีว่าต้องใช้บริการรถรับจ้างอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเรามองแล้วว่าไม่คุ้มแน่ๆถ้าหากเราต้องขนย้ายที่ตัวเราเองอีกสิ่งนึงที่ เราควรจะตระหนักถึงงาน บริการรถรับจ้างขนของ นั่นก็คือความปลอดภัยของผู้ให้บริการ ว่าเป็นผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่และที่สำคัญงานบริการของผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของรายนี้เป็นอย่างไรทุกคนต้องการอยากจะได้รถรับจ้างขนของที่สภาพดี มีคุณภาพในการบริการที่เด่นและมีความน่าเชื่อถือ ทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้บริการ


ดังนั้นเราจึงต้อง ทำการวิเคราะห์หรือหาข้อมูลการให้บริการของรถรับจ้างขนของต่างๆมากมายซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากว่าเราต้องการที่จะค้นหาในกูเกิ้ลด้วยคำว่ารถรับจ้างนั้นมีรถรับจ้างที่เข้ามาให้บริการจำนวนมากโดยที่เราไม่รู้เลยว่า อันดับที่อยู่ต้นๆหรือที่มีการโฆษณานั้นคุณภาพงานบริการจะดีหรือไม่ดี แต่เราควรที่จะดูถึงความน่าเชื่อถือดูรีวิวจากลูกค้าและราคาค่าบริการนั้นมันเหมาะสมสมเหตุสมผลหรือไม่ จึงเป็นที่มาว่าเราควรที่จะต้องวิเคราะห์พิจารณารถรับจ้างขนของอย่างไรไม่ว่าจะเป็น รถกระบะรับจ้างขนของ รถรับจ้าง 4 ล้อ รถรับจ้าง 6 ล้อ รถหกล้อรับจ้างขนย้ายบ้าน หรือ รถขนของหลากหลายชนิดอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในแต่ละขนาดของรถก็จะมีลักษณะงานที่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเราจึงต้อง ศึกษาหาข้อมูลหรือเลือกข้อมูลพื้นฐานในการวิเคราะห์เบื้องต้นในการเลือกรถรับจ้างต่างๆดังนี้

ขนาดของรถรับจ้างต้องมีความเหมาะสมกับสินค้าที่จะขนย้าย ไม่ว่างงาน ย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ย้ายคอนโด ย้ายห้องขนส่งสินค้า รถกระบะรับจ้าง หกล้อรับจ้างอุทัยธานี น่าจะมีความเหมาะสมที่จะเข้าให้บริการได้เป็นอย่างดี ยกเว้นแต่สินค้าที่มีปริมาณมากๆหรือบรรทุกน้ำหนักประมาณ 15 ตันก็ควรที่จะใช้ รถสิบล้อรับจ้าง เป็นต้น

ต้องมีคนยกสินค้าหรือพนักงานยกของ เพราะนี่คือสิ่งสำคัญสำหรับการให้บริการ รถรับจ้าง เพราะว่าเราไม่ได้ขนย้ายด้วยตัวเราเอง ดังนั้นเราจึงควรที่จะหาพนักงานยกสินค้าที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามายกสินค้าให้กับเรา

ที่ไปที่มาของผู้ให้บริการรถรับจ้าง ควรที่จะ อยู่ในพื้นที่หรือในระแวกนั้นเพื่อที่จะสามารถให้รถรับจ้างขนของวิ่งเข้ามาให้บริการในช่วงระยะเวลาอันสั้นหรือเราสามารถที่จะบริหารและเวลาในการขนย้ายได้เป็นอย่างดีดังนั้นถ้าหากค้นหาคำว่ารถรับจ้างควรที่จะลงพื้นที่ในรายละเอียดเข้าไปด้วยเช่นต้องการรถรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรีเป็นต้น

ไม่เกี่ยงงานไม่งอแง เพราะต้องการผู้ให้บริการที่มีใจรักงานบริการจริงๆ โดยที่สามารถจะตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้บริการได้แต่ต้องอยู่ในความเหมาะสม และพูดจาไพเราะสุภาพ

ใกล้ไกลแค่ไหนก็สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงเป็นอีกหนึ่งบริการที่เราควรจะต้องได้ใช้บริการอย่างแน่นอนเพื่อที่จะเช็คสถานะของสินค้าว่าถึงไหนแล้วหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงการขนย้ายสามารถที่จะโทรบอกผู้ให้บริการรถรับจ้างขนของได้โดยทันที

ถ้าผู้ให้บริการสามารถที่จะเป็นไปตามคุณลักษณะดังนี้ เราก็มั่นใจได้เลยว่า งานบริการขนย้ายของในรอบนี้จะไม่มีเรื่องยุ่งยากและไม่ทำให้เราต้องปวดหัวอย่างแน่นอน โดยจริงๆแล้วงาน รับจ้างขนของจังหวัดอุทัยธานี นั้นหากพูดไปแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา แน่นอนเพราะว่าเราไม่ใช่ คนที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เราจึงควรปล่อยให้ผู้ให้บริการรถรับจ้างเข้ามาบริการจัดการให้กับเราจึงจะมีความเหมาะสมที่สุดใช้คนให้ถูกงานเลือกรถให้ถูกคุณลักษณะของงาน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแต่ที่สำคัญต้องเลือก รถรับจ้างขนของที่บริการดีราคาไม่แพง หากเพื่อนๆหรือผู้ใช้บริการท่านใด มีความคิดว่าจะขนย้ายของ เรามีเบอร์ให้ท่านได้ลองติดต่อสอบถามหรือพูดคุยรายละเอียดผ่าน ผู้ให้บริการรถรับจ้างอุทัยธานีโดยตรงไม่ต้องมีนายหน้า ซึ่ง เราเคยใช้บริการแล้วมองว่าบริการดีจริงและ มีความเป็นกันเองที่สำคัญต่อรองราคาได้ด้วย

23
มิตซูบิชิ ไทรทัน 2024: มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 Pro 4WD ปี 2023
699,000 บาท 

มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 Pro 4WD ปี 2023
MITSUBISHI TRITON SINGLE CAB 2.4 Pro 4WD ตัวถังดีไซน์ใหม่!เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เครื่องยนต์ใหม่ ไฮเปอร์เพาเวอร์ กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร เทอร์โบแปรผัน VG Turbo ช่วงล่างใหม่ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              Mitsubishi
   รุ่น                   มิตซูบิชิ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 Pro 4WD ปี 2023
   ประเภทรถ          รถกระบะ 2 ประตู (ตอนเดียว)
   ปีที่เปิดตัว           2023
   ราคา                 699,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (กระจังหน้าสีดำพร้อมสัญลักษณ์ MITSUBISHI)
ไฟหน้ามัลติรีแฟลกเตอร์ (ฮาโลเจน)
ล้อกระทะ (16 นิ้ว)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (ไฟเลี้ยวข้างตัวรถ,แผ่นกันกระแทกด้านล่าง,ยางกันโคลน)
ขนาดยางหน้า-หลัง (205R16C)

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ตกแต่งภายใน (ซาตินโครม)
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (เข้า-ออก)
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (หน้า USB-C / USB-A หลัง USB-C / USB-A)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ))

สเปค
   เครื่องยนต์         เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) เทอร์โบแปรผัน VG Turbo กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร

   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)       2,442 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)    184 แรงม้า
   ระบบเกียร์                      เกียร์ธรรมดา 6MT
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS               มี (EBD/BA)
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง        ดีเซล, B7
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)        75 ลิตร
   ระบบจ่ายน้ำมัน                 คอมมอนแรล
   น้ำหนักตัวรถ                    -
   ประเภทยางรถยนต์             -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน              ขับเคลื่อนสี่ล้อ (แบบ Easy Select 4WD พร้อม Diff-Lock ที่เฟืองท้าย และ Active Limited Slip (Brake Control Type))

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ASC/ ระบบควบคุมการลื่นไถล TCL)
ตัวถังนิรภัย
เซ็นทรัลล็อค
กุญแจรีโมท (แบบพับเก็บได้)
กุญแจนิรภัย (Immpbilizer)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
เข็มขัดนิรภัย (พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ)
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน
ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System)
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX พร้อมที่เกี่ยวเบาะนั่งสำหรับเด็กด้านผู้โดยสารด้านหน้า)
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย

24
Doctor At Home: ตาได้รับบาดเจ็บรุนแรง (Severe eye injury)

การบาดเจ็บที่เกิดกับดวงตาอาจมีความรุนแรงมากน้อยต่าง ๆ กันไป หากมีความรุนแรงนอกจากเกิดบาดแผลที่เป็นอันตรายต่อดวงตาโดยตรงแล้ว ยังอาจมีผลแทรกซ้อนตามมาได้อีกด้วย เช่น ต้อหิน ต้อกระจก จอตาลอก เป็นต้น


สาเหตุ

เกิดจากบาดเจ็บที่ตา เช่น ถูกต่อย ถูกตี ถูกหนังสติ๊กยิง รถชน ถูกยิง ถูกแทง เป็นต้น


อาการ

ถ้าไม่รุนแรง อาจมีเพียงรอยฟกช้ำที่ขอบตา หรือมีเลือดออกใต้ตาขาว ซึ่งมักจะไม่มีอาการปวดตา หรือตามัวแต่อย่างใด

แต่ถ้าได้รับบาดเจ็บรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการตามืดมัวลงฉับพลัน หรือปวดตารุนแรง ซึ่งอาจเกิดจากมีเลือดออกในช่องลูกตาหน้า (anterior chamber) เลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา (vitreous hemorrhage) เลือดออกในจอตา จอตาหรือม่านตาฉีกขาด แก้วตาเคลื่อน แผลกระจกตา เป็นต้น

ถ้ากระจกตาหรือตาขาวทะลุ จะมีของเหลวไหลออกจากลูกตา ถ้าเป็นมากอาจมีเนื้อเยื่อภายในลูกตาออกมาจุกที่แผล พวกนี้มักเกิดจากถูกมีดหรือของมีคมแทง หรือเกิดจากแรงระเบิดจากถังแก๊ส หรือขวดน้ำอัดลม

ตาได้รับบาดเจ็บรุนแรง


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าได้รับการกระทบกระเทือนที่ตาอย่างรุนแรง อาจทำให้เป็นจอตาลอก ต้อหิน ต้อกระจก หรือสูญเสียลูกตา


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งอาจพบสิ่งผิดปกติ เช่น รอยฟกช้ำที่ขอบตาหรือมีเลือดออกใต้ตาขาว ภาวะเลือดออกในช่องลูกตาหน้า (ใช้ไฟส่องจะเห็นบริเวณหลังกระจกตามีลักษณะขุ่น หรือมีตะกอนเม็ดเลือดแดงลอยอยู่ในน้ำเลี้ยงลูกตาในช่องลูกตาหน้า) มีของเหลวไหลออกจากลูกตา (กระจกตาหรือตาขาวทะลุ) เป็นต้น

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในลูกตาด้วยเครื่องมือ (เช่น slit-lamp) ส่องตรวจดูภายในลูกตา และอาจทำการตรวจพิเศษ (เช่น เอกซเรย์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าพบว่ามีของเหลวไหลออกจากลูกตา ซึ่งสงสัยว่ากระจกตาหรือตาขาวทะลุ แพทย์จะให้การรักษาตามลักษณะและความรุนแรงของบาดแผล ถ้ารูไม่ใหญ่และยังไม่มีการติดเชื้อ (ได้รับบาดเจ็บนานไม่เกิน 6 ชั่วโมง) ก็อาจทำการเย็บซ่อมแซม หรือลักษณะบาดแผลยังมีทางแก้ไขให้สามารถมองเห็นได้ ก็จะทำการซ่อมแซมดวงตาและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง

แต่ถ้าเห็นว่าดวงตามีความเสียหายรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขให้มองเห็นได้ ก็อาจจำเป็นต้องผ่าตัดควักลูกตาออก หรืออาจต้องให้ยากดภูมิคุ้มกัน ได้แก่ เพร็ดนิโซโลน โดยให้ผู้ป่วยกินในขนาดสูง เพื่อป้องกันการอักเสบของผนังลูกตาชั้นกลาง (uveitis) ของตาข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอีกข้างตามมา ซึ่งเรียกว่า ตาอักเสบรุนแรงแบบเป็นร่วม (sympathetic ophthalmia)* ทำให้อาจต้องสูญเสียตา 2 ข้าง

2. ถ้ามีอาการปวดตารุนแรง หรือตามืดมัวลงทันทีหลังได้รับบาดเจ็บ ตรวจพบมีแผลกระจกตา แพทย์จะให้การรักษาตามอาการและให้ยาปฏิชีวนะตามความจำเป็น อาจจำเป็นต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาลจนกว่าจะทุเลา

3. ในรายที่มีเลือดออกในช่องลูกตาหน้า ผู้ป่วยจะมีอาการตามัว เวลาใช้ไฟส่องจะเห็นบริเวณหลังกระจกตามีลักษณะขุ่น หรือมีตะกอนเม็ดเลือดแดงลอยอยู่ในน้ำเลี้ยงลูกตาในช่องลูกตาหน้า อาการเลือดออกอาจเกิดขึ้นทันที หรือหลังได้รับแรงกระแทก 2-5 วันก็ได้ อาการดังกล่าวเรียกว่า "Hyphema"

ถ้ามีเลือดออกมาก ควรให้นอนพักในโรงพยาบาล ทำการปิดตา ให้นอนพักบนเตียงเป็นเวลา 6-7 วัน เพื่อรอให้เลือดค่อย ๆ ดูดซึมออกไป

ถ้ามีอาการปวดตามาก หรือความดันลูกตาสูง แพทย์จะให้ยาลดความดันลูกตา (เช่น อะเซตาโซลาไมด์) เพื่อป้องกันมิให้กลายเป็นต้อหิน ถ้าจำเป็นอาจต้องผ่าตัด

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เป็นต้อหินตามมาได้

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของการบาดเจ็บ ถ้ารุนแรงมากอาจมีภาวะแทรกซ้อนทำให้สายตาพิการ หรือสูญเสียดวงตา ถ้ารุนแรงปานกลาง (เช่น แผลกระจกตา เลือดออกในช่องลูกตาหน้า) หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรก ก็มักจะหายเป็นปกติหรือป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

*ภาวะตาอักเสบรุนแรงแบบเป็นร่วม พบในผู้ที่เกิดบาดแผลทะลุของลูกตา (penetrating eye wound) ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดของแพทย์ก็ได้ เชื่อว่าตาข้างที่เกิดบาดแผลจะมีการปล่อยสารบางชนิดออกมากระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารภูมิต้านทาน ซึ่งจะไปก่อปฏิกิริยาภูมิต้านตนเองต่อตาข้างที่ดี ทำให้เกิดการอักเสบทั่วผนังลูกตาชั้นกลาง รวมทั้งม่านตา (เรียกว่า panuveitis) ซึ่งอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น จานประสาทตาบวม (papilledema) หรือต้อหิน ทำให้สายตาพิการได้ ภาวะนี้พบได้ประมาณร้อยละ 0.2-0.5 ของผู้ที่มีบาดแผลทะลุของลูกตา (บ้างก็รายงานว่าพบน้อยกว่านี้มาก) ส่วนใหญ่มักเกิดหลังบาดเจ็บ 2-12 สัปดาห์ บางรายอาจเกิดหลังบาดเจ็บหลายปี

ภาวะตาอักเสบรุนแรงแบบเป็นร่วม สามารถป้องกันได้โดยการควักลูกตาข้างที่บาดเจ็บออก ซึ่งควรทำภายใน 2 สัปดาห์หลังบาดเจ็บ แต่ในแง่ปฏิบัติ แพทย์อาจลองรักษาตาข้างที่บาดเจ็บและรอดูอาการไปก่อน ขณะเดียวกันก็จะให้ยาสเตียรอยด์ หรือยากดภูมิคุ้มกันอื่น ๆ (เช่น ไซโคลสปอรีน) เพื่อไม่ให้เกิดปฏิกิริยาภูมิต้านตนเองต่อตาข้างที่ดี

 ส่วนในกรณีที่เกิดภาวะนี้ขึ้นมาแล้ว การให้ยากดภูมิคุ้มกันรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้


การดูแลตนเอง

หากตาได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่ตา หรือไม่มีบาดแผลแต่มีอาการปวดตา เคืองตา ตาพร่ามัว ควรรีบปรึกษาแพทย์ ดูแลรักษา ปฏิบัติตัว และติดตามการรักษาตามที่แพทย์แนะนำ

หากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีรอยห้อเลือดที่ตาขาว ไม่มีอาการปวดตา และมองเห็นได้ชัดตามปกติ ก็ให้การดูแลแบบ "โรคเลือดออกใต้ตาขาว"

การป้องกัน

ระวังอย่าให้เกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่กระทบต่อดวงตา

เวลาทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บต่อดวงตา (ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดต้อหินได้) ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันตา


ข้อแนะนำ

หากได้รับบาดเจ็บหรือการกระทบกระเทือนต่อดวงตา ถึงแม้ไม่มีบาดแผลภายนอก ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคตาแทรกซ้อน เช่น เลือดออกในช่องลูกตาหน้า แก้วตาเคลื่อน จอตาลอก ต้อหิน ต้อกระจก เป็นต้น ก็ควรเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการปวดตา ตาพร่ามัว ซึ่งเกิดหลังได้รับบาดเจ็บทันที หรือเกิดตามมาในภายหลัง ก็ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว



25
จัดฟันบางนา: เผยเรื่องเข้าใจผิดต่างๆ เกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส

เชื่อว่าหลายๆท่านที่คิดว่าจะทำการจัดฟัน กำลังมองหาข้อมูลต่างๆมากมาย เนื่องจากในสมัยนี้ มีการจัดฟันหลากหลายรูปแบบ ให้ท่านได้เลือกตามความเหมาะสมของวิถีชีวิต หน้าที่การงาน รวมถึงช่วงอายุ และในขณะนี้รูปแบบการจัดฟันที่เรียกได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมมากๆ ก็คือ การจัดฟันแบบใส Invisalign

ซึ่งเป็นนวัตกรรมการจัดฟันที่เรียกได้ว่า ท่านจะฟันสวยเรียงตัวได้ดีโดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าท่านนั้นกำลังจัดฟัน รวมถึงยังช่วยในเรื่องของสุขภาพทางช่องปากของท่านให้สะอาด และปลอดภัยจากโรคต่างๆในช่องปาก เพราะท่านจะสามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้ดีกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆอย่างแน่นอน

โดยในวันนี้ทางด้านของ Clinic ผู้เชี่ยวชาญเรื่องทันตกรรม โดยทันตแพทย์ผู้มากความสามารถที่มีประสบการณ์มากว่า 16 ปี จะขอมาไขข้อเข้าใจผิดต่างๆ ที่หลายๆท่านยังเกิดความสงสัย แต่มีความเชื่อผิดๆจากคำบอกเล่าของใครหลายๆคน โดยจะมีอะไรบ้างลองไปอ่านกันดีกว่า เพื่อให้ท่านได้เข้าใจ และรู้จักรูปแบบการจัดฟันแบบใส Invisalign ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

หลักการทำงาน เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign

เชื่อว่ามีหลายๆท่านคิดว่า อุปกรณ์จัดฟันแบบใส Invisalign สามารถหาซื้อได้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องที่ร้านทันตแพทย์ รวมถึงใช้อุปกรณ์เพียงอันเดียวตลอดการรักษา ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่เข้าใจผิดกันอย่างมาก เพราะ การจัดฟันแบบใส Invisalign จำเป็นมากที่จะต้องจัดกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น หากเป็นทันตแพทย์ทั่วไปที่ยังไม่มีประสบการณ์อาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการจัดฟันแบบใสได้

โดยอุปกรณ์ในการจัดฟันนั้นจะไม่ได้มีเพียงแค่ชุดเดียวตลอดการรักษา แต่จะเปลี่ยนชุดใหม่ทุก 2 สัปดาห์ เพราะตอนเวลาที่สวมใส่อุปกรณ์ รูปฟันของท่านจะเคลื่อนที่ตลอด เพราะเหตุนี้จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเพื่อให้ฟันของท่านเข้าที่ได้อย่างรวดเร็วและสวยงามนั่นเอง

 

เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบอื่น ?

ต้องบอกเลยว่า ถ้าพูดกันตามตรงแล้ว การจัดฟันแบบใส Invisalign ในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้น เป็นนวัตกรรมใหม่ของการจัดฟัน เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ให้ท่านได้รับความสะดวกและเหมาะสม แต่การจัดฟันแบบนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างสำหรับบางคน

โดยทันตแพทย์หลายๆท่านแนะนำว่า ได้ไม่เกิดความกังวลและอึดอัดกับการใส่อุปกรณ์จัดฟันถาวร ก็ไม่ได้มีความจำเป็นมากนักที่จะใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign

 

ความเข้าใจผิด เรื่องการวางแผน จัดฟันแบบใส Invisalign ?

เนื่องจากว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign ได้มีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 3D เข้ามาใช้เป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่จึงมองว่า สามารถทำการจัดฟัน Invisalign ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเรื่องสถานที่ หรือเลือกทันตแพทย์ที่มีความสามารถเฉพาะทางแต่อย่างใด เพราะไม่จำเป็นต้องใช้ทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์หรือความสามารถ แต่ใช้คอมพิวเตอร์แทน ซึ่งขอบอกเลยว่าผิดถนัด และถือว่าเป็นแนวคิดที่มีความผิดอย่างรุนแรง และอันตรายอย่างมาก

ซึ่งความเป็นจริงแล้ว แม้ว่าคอมพิวเตอร์ จะสามารถช่วยสร้างแบบจำลองการเคลื่อนฟันตั้งแต่ต้นจนจบได้ แต่เมื่อทำการใส่อุปกรณ์จริงๆแล้วการเคลื่อนตัวของฟันมนุษย์นั้น จะขึ้นอยู่การพฤติกรรมการตอบสนองของร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คอมพิวเตอร์ไม่มีวันทราบ ดังนั้นการเคลื่อนตัวของฟันท่านจะไม่ใช่ออกมาแบบเดียวกับคอมพิวเตอร์อย่าง 100% แต่ต้องขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาต่างๆ และความสามารถของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถอีกด้วย และถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้

เพราะต้องเข้าใจว่าคอมพิวเตอร์จะประมวลผลออกมาเหมือนกันไม่ว่าท่านจะไปรักษาที่ไหน แต่ความสามารถในการวิเคราะห์เชิงลึกที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถวิเคราะห็ได้ต่างๆหากคือส่วนที่สำคัญที่สุด จึงอยากแนะนำว่าควรศึกษาสถานที่และทัตแพทย์ที่ท่านจะไปทำการรักษาให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่ตามมาทีหลังนั่นเอง

 
ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ป่วยหลายๆท่านเข้าใจผิด และยังมีคำถามที่คาใจอีกมากมาย แต่ทางที่ดีที่สุด ทุกครั้งที่ท่านจะรักษาทางด้านทันตกรรม ท่านควรเลือกสถานที่ละทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และความสามารถ อย่าคิดว่าที่ไหนก็เหมือนกัน เพราะในความเป็นจริงที่ไหนก็ไม่เหมือนกัน

26
บ้านติดรถไฟฟ้า ศุภาลัย ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (Supalai Prime Villa New Krungthepkreetha - Motorway)
เริ่มต้น 11.8 ลบ. 

ศุภาลัย ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (Supalai Prime Villa New Krungthepkreetha - Motorway)
ไพร์ม วิลล่า บ้านเดี่ยว NEW BRAND & NEW DESIGN CUSTOMIZE จาก ศุภาลัย บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ หลังใหญ่ พื้นที่บ้านกว้าง พร้อมแนวคิดการประหยัดพลังงาน ด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ทุกหลัง และรองรับ EV Charge บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่-มอเตอร์เวย์ ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานี ลาดกระบัง สะดวกทุกการเดินทาง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             ศุภาลัย ไพร์ม วิลล่า กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (Supalai Prime Villa New Krungthepkreetha - Motorway)
 เจ้าของโครงการ        ศุภาลัย
 แบรนด์ย่อย             ศุภาลัย ไพร์ม
 ราคา                    เริ่มต้น 11.8 ลบ.

 ประเภทบ้าน        บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล      บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ     10 ไร่ 30 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน         41 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด  2 แบบ
  เนื้อที่บ้าน          ตั้งแต่ 66.2 ถึง 81.6 ตร.ว.
 พื้นที่ใช้สอย        ตั้งแต่ 243 ถึง 293 ตร.ม.
 จำนวนชั้น          2 ชั้น
 หน้ากว้าง          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน   4 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ       ตั้งแแต่ 2 ถึง 3 คัน
 สาธารณูปโภค         สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, Keycard System, สนามเด็กเล่น

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน       มีนบุรี, หนองจอก, ลาดกระบัง, บึงกุ่ม
 ที่ตั้ง       ถนนพัฒนาชนบท 4 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าAirport Rail Link, สถานี(สถานีปัจจุบัน)(ลาดกระบัง)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่), ถนนกิ่งแก้ว, ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี, ถนนร่มเกล้า)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. Market Place กรุงเทพกรีฑา
2. The Park กรุงเทพกรีฑา
3. โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช ลาดกระบัง
4. Robinson ลาดกระบัง
5. Airport Link ลาดกระบัง
6. The Mall บางกะปิ
7. The Nine พระราม 9
8. โรงพยาบาลเกษมราษร์ รามคำแหง
9. Wellington College
10. โรงพยาบาลสินแพทย์ เสรีรักษ์
11. The Mall รามคำแหง
12. โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า

 ปีที่สร้างเสร็จ       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 หมายเหตุ          Pre-sales 9-10 มีนาคม 2567

27
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2024: เสียวหมี่ Xiaomi POCO M6 (8GB/256GB)
5,999 บาท 

เสียวหมี่ Xiaomi POCO M6 (8GB/256GB)
กล้องหลักระดับโปรความละเอียด 108MP ระบบซูมในเซ็นเซอร์ 3X
รองรับชาร์จเร็ว 33W แบตเตอรี่ความจุสูง 5030mAh (typ)
ชิปเซ็ตทรงพลัง Helio G91-Ultra RAM สูงสุดถึง 16GB จากการขยายหน่วยความจำ
จอแสดงผล FHD+ 90Hz ขนาด 6.79 นิ้ว ดีไซน์ด้านหลังเป็นกระจกแบบพรีเมียม

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น            เสียวหมี่ Xiaomi POCO M6 (8GB/256GB)
   ราคากลาง         5,999 บาท
   จำนวนซิม          2 ซิม (Nano Sim)
   แบบดีไซน์        จอสัมผัส
   สี                  Silver, Black, Purple

   ความถี่-เครือข่าย
2G(GSM:2/3/5/8)
3G(WCDMA: 12/4/5/8)
4G(LTE FDD: 1/2/3/4/5/7/8/20/28/66 | LTE TDD: 38/40/41)

   ขนาด-น้ำหนัก                   ยาว 168.6 x กว้าง 76.28 x หนา 8.3 มม., น้ำหนัก 205 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)   256 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด    Micro SD
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ       ความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ           จอสัมผัส (DotDisplay)
   ความละเอียด    6.79 นิ้ว, 396 ppi, 1,080 x 2,460 px

   รายละเอียดอื่น
FHD+ DotDisplay ขนาด 6.79 นิ้ว
ความละเอียดและความหนาแน่นของพิกเซล: 2460x1080, 396 ppi
อัตรารีเฟรช: สูงสุด 90Hz
ความสว่าง: 450 nits (typ) 550 nits HBM
โหมดอ่านหนังสือ
แสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland Low Blue Light (ฮาร์ดแวร์โซลูชัน)
ความเป็นมิตรกับนาฬิกาชีวภาพจาก TÜV Rheinland
ความไร้ซึ่งแสงกะพริบ TÜV Rheinland
การหรี่ไฟ DC

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                 กล้องหลัง (108 Mpx), กล้องหน้า (13 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                              -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)          Helio G91-Ultra
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)  Mali-G52 MC2
   หน่วยความจำ (RAM)             8.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก            USB(Type-C), Bluetooth(5.4), Jack(3.5 มม.), NFC, Wi-Fi(2.4GHz | 5GHz)
   ระบบรับส่งข้อความ               -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต          3G, WiFi, 4G
   ระบบ GPS                          ไม่มี

28
ซ่อมบำรุงอาคาร: ติดตั้งรางน้ำฝนอย่างไร ไม่ให้มีปัญหากับเพื่อนบ้าน
         
ชายคาบ้านเป็นพื้นที่สำคัญในการช่วยปกป้องทั้งแดด ลม ฝน เข้าสู่ตัวบ้าน และหนึ่งส่วนประกอบของเชิงชายบริเวณชายคาบ้านที่สำคัญก็คือ รางน้ำฝน นั่นเอง รางน้ำฝนมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ชายคาและหลังคาบ้านผุกร่อน และยังป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลลงมาเลอะผนังและบริเวณรอบบ้าน รวมทั้งยังช่วยให้น้ำฝนไหลลงในจุดที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้มีปัญหากับบ้านใกล้เคียงอีกด้วย
         
มาทำความรู้จักกับประเภทของรางน้ำฝน และคุณสมบัติของรางน้ำฝนแต่ละประเภท รวมถึงวิธีการติดตั้งอย่างไรที่ไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตกันครับ

ประเภทของรางน้ำฝนที่แบ่งตามวัสดุ

1. รางน้ำฝนโลหะ

          • รางน้ำฝนสังกะสี
          เป็นวัสดุเหล็กแผ่นเคลือบผิวสังกะสี โดยจะตัดและพับขึ้นรูปได้ตามรูปแบบและขนาดที่ต้องการ ในอดีตเป็นที่นิยมนำมาทำรางน้ำ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และมีราคาถูก แต่มีอายุการใช้งานค่อนข้างต่ำ เป็นสนิมได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณรอยต่อรอยเชื่อม มีความสวยงามน้อยกว่าแบบอื่น และมีเสียงดังเมื่อน้ำฝนตกกระทบ
          • รางน้ำฝนอะลูมิเนียม
          เหล็กแผ่นเคลือบผิวอลูซิงค์ หรือกัลวาไนซ์แล้วพ่นสีทับ เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มักนำมาทำรางน้ำฝน เนื่องจากไม่เกิดสนิมง่าย มีความคงทนต่อการกัดกร่อนสูง น้ำหนักเบา มีความสวยงามและมีหลายสี ราคาสูงกว่าแบบสังกะสี แต่จะไม่มีปัญหาเรื่องรั่วซึม เนื่องจากขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อได้
          • รางน้ำฝนสแตนเลส
          รางน้ำประเภทนี้ควรเลือกใช้สแตนเลส เกรด 304 เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดสนิม รางน้ำสแตนเลสจะมีเนื้อวัสดุเป็นสีธรรมชาติ แม้ว่าราคาจะสูงกว่ารางน้ำฝนสังกะสี แต่ดูสวยงามมากกว่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า มีความทนทานสูง ไม่เป็นสนิม


2. รางน้ำฝนวัสดุสังเคราะห์

          • รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส
          เป็นอีกหนึ่งวัสดุใช้ทำรางน้ำที่นิยมใช้งานตามบ้าน เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความคงทนสูง ไม่เกิดสนิม มีความสวยงามเป็นเนื้อเดียวไม่มีรอยต่อ มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิตตามความยาวที่ต้องการ อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี แต่การติดตั้งต้องใช้ช่างเฉพาะทาง
          • รางน้ำฝนไวนิล
          รางน้ำประเภทนี้ผลิตมาจากโพลีเมอร์สังเคราะห์ เป็นรางน้ำสำเร็จรูป ติดตั้งง่าย รวดเร็วมีความแข็งแรงและสวยงาม มีหลายสีให้เลือกเข้ากับบ้านได้ง่าย เนื้อวัสดุคล้ายกับพลาสติกแต่มีความเหนียว คงทนมากกว่าพลาสติก ไม่เป็นสนิม ติดตั้งง่ายกว่ารางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส อายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี การใช้งานจะเชื่อมต่อด้วยกาว หรือซิลิโคน แต่การติดตั้งต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ


เลือกรางน้ำฝนแบบไหนดี ?

          ควรเลือกรางน้ำฝนที่วัสดุมีอายุการใช้ไม่ต่ำกว่า 10 - 15 ปี และไม่ตื้นเกินไปเพราะจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปฝ้าเพดานได้ รวมถึงเลือกใช้ให้เหมาะกับการรับน้ำ ดังนี้
          - หลังคาที่มีความยาวไม่เกิน 5 เมตร ใช้รางน้ำฝนขนาด 4 นิ้ว
          - หลังคาที่มีความยาวไม่เกิน 5 - 15 เมตร ใช้รางน้ำฝนขนาด 5 นิ้ว
          - หลังคาที่มีความยาวมากกว่า 15 เมตร ใช้รางน้ำฝนขนาด 6 นิ้ว


วิธีการติดตั้งรางน้ำฝนที่ถูกต้อง

          การติดตั้งรางน้ำฝนต้องหาระยะในการติดตั้งที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้รางน้ำฝนยื่นเลยออกไปในขอบเขตของเพื่อนบ้านและมีปัญหาภายหลังได้
          ตามข้อกฎหมายการสร้างบ้าน ต้องระวังเรื่องการระบายน้ำฝน เพื่อไม่ให้การระบายน้ำกระทบต่อที่ดินข้างเคียง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2538) ข้อ 2 บอกไว้ว่า “อาคารที่ก่อสร้างหรือดัดแปลงต้องมีการระบายน้ำฝนออกจากอาคารที่เหมาะสมและเพียงพอที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นหรือเกิดน้ำไหลนองไปยังที่ดินอื่นที่มีเขตติดต่อกับเขตที่ดินที่เป็นที่ตั้งของอาคารนั้น"
          ประกอบกับกฎหมายควบคุมอาคาร ข้อ 50 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) "กำหนดให้ แนวผนังอาคารต้องร่นจากเขตที่ดินข้างเคียงไม่น้อยกว่า 0.50 เมตร และเป็นผนังทึบ”
          ดังนั้น หากติดตั้งรางน้ำฝนกับหลังคาที่มีการติดตั้งเชิงชายเรียบร้อยแล้ว ระยะยื่นปลายกระเบื้องหลังคารางน้ำฝนจะใช้พื้นที่ประมาณ 15 - 20 เซนติเมตร

วิธีการติดตั้งรางน้ำฝนเบื้องต้น มีดังนี้
          1. สำรวจพื้นที่ที่จะติดตั้งรางน้ำฝน ตรวจสอบความแข็งแรงของบริเวณเชิงชาย หรือปีกนกที่จะติดรางน้ำฝน หากต้องมีการรื้อรางน้ำเก่าออกก่อน ระวังอย่าให้กระทบกับโครงสร้างหลังคา
          2. วัดระดับน้ำที่หัวท้ายของรางน้ำ เพื่อตรวจความลาดเอียงของรางน้ำ แล้วทำการตีเต๊าหรือเชือกตีแนวเส้นที่จะติดตั้งรางน้ำ
          3. ติดตั้งตะขอแขวนราง ตามระยะที่เหมาะสมกับประเภทรางน้ำ ซึ่งแต่ละประเภทมีระยะที่เหมาะสมไม่เท่ากัน โดยทั่วไปจะเว้นระยะห่างประมาณ 60 - 80 เซนติเมตร หากเป็นรางน้ำฝนไวนิลจะต้องใช้ซิลิโคนในการช่วยเชื่อมระหว่างรอยต่อด้วย
          4. ติดตั้งรางน้ำฝนกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด
          5. เช็กการทำงานของรางน้ำฝนด้วยการทดลองฉีดน้ำบนหลังคา

          จะเห็นได้ว่ารางน้ำฝนคืออุปกรณ์ที่สำคัญนอกจากจะช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยและไม่เลอะเทอะในช่วงหน้าฝนแล้ว หากติดตั้งอย่างถูกต้องและตามกฎหมายก็จะทำให้ลดปัญหากับเพื่อนบ้านลงได้ด้วย

29
หมอประจำบ้าน: เนื้องอกมดลูก (Myoma uteri/Uterine fibroids)

เนื้องอกมดลูก (Myoma uteri/Uterine fibroids)* เป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ไม่ใช่เนื้อร้าย (มะเร็ง) ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 25 ของผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป มักพบในผู้หญิงอายุ 35-45 ปี แต่อาจพบในหญิงสาวก็ได้

เนื้องอกอาจมีขนาดต่าง ๆ กันไป อาจเป็นก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ บางชนิดโตช้า แต่บางชนิดโตเร็ว

อาจเกิดอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก (ซึ่งเป็นเนื้องอกของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อล้วน ๆ เรียกว่า “Myomauteri”) ซึ่งอาจงอกเข้าไปในโพรงมดลูก หรืออยู่ที่ผนังด้านในหรือด้านนอกของมดลูก (ซึ่งเป็นเนื้องอกของเนื้อเยื่อพังผืดผสมกับเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ เรียกว่า “Uterine fibroid”) ซึ่งอาจงอกเข้าไปในช่องท้อง

* มีชื่อเรียกอื่น เช่น leiomyoma. fibromyoma


สาเหตุ

เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก จนกลายเป็นก้อนเนื้องอกที่มีลักษณะเป็นก้อนหยุ่น ๆ สีซีด แตกต่างจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ซึ่งสาเหตุของการเกิดเนื้องอกมดลูกยังไม่ทราบแน่ชัด

บางรายอาจมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว จึงเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางกรรมพันธุ์

พบว่าฮอร์โมนเอสโทรเจนมีส่วนกระตุ้นให้เนื้องอกมดลูกเจริญเติบโต เช่น ขณะตั้งครรภ์ เนื้องอกมักจะมีขนาดโตขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เนื้องอกก็จะฝ่อเล็กลงได้เอง นอกจากนี้ยังพบว่าในเนื้องอกมดลูกมีตัวรับ (receptor) เอสโทรเจนมากกว่าปกติ


อาการ

ถ้าก้อนขนาดเล็กอาจไม่มีอาการแสดง มักตรวจพบโดยบังเอิญ ขณะที่แพทย์ทำการตรวจภายในช่องคลอดหรือตรวจอัลตราซาวนด์บริเวณท้องน้อยด้วยสาเหตุอื่น

ถ้าก้อนขนาดโต มักมีเลือดออกมากหรือกะปริดกะปรอยคล้ายดียูบี แต่มักจะมีอาการปวดประจำเดือนร่วมด้วยหรือปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อย หรือปวดหลังส่วนล่างแบบเรื้อรัง

บางรายก้อนเนื้องอกอาจโตกดอวัยวะข้างเคียงทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย ท้องผูก หรือมีอาการปวดเฉียบขณะร่วมเพศ

ถ้าก้อนโตมาก ๆ อาจคลำได้ก้อนที่บริเวณท้องน้อยหรือมีอาการท้องโตคล้ายคนท้อง


ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เลือดออกมากจนซีด (โลหิตจาง)

ก้อนเนื้องอกอาจโตกดถูกท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ ทำให้มีอาการปัสสาวะบ่อย หรือมีความรู้สึกเวลาปวดปัสสาวะต้องรีบเข้าห้องน้ำทันที หรือปัสสาวะไม่ออก บางรายอาจมีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะแทรกซ้อน บางรายอาจกดถูกท่อไต ทำให้เกิดภาวะท่อไตบวมและคั่งน้ำ (hydroureter) และภาวะกรวยไตบวมและคั่งน้ำ (hydrohephrosis)

ถ้ากดถูกทวารหนักก็ทำให้มีอาการท้องผูก ริดสีดวงทวารกำเริบได้

ถ้ากดถูกท่อรังไข่ก็อาจทำให้มีบุตรยาก

ขณะตั้งครรภ์ ก้อนเนื้องอกอาจโตขึ้นรวดเร็วจนทำให้แท้งบุตร หรือคลอดลำบาก

บางรายก้อนเนื้องอกอาจโตยื่นออกนอกมดลูก โดยมีก้านเชื่อมกับมดลูก บางครั้งอาจเกิดการบิดของขั้วเนื้องอก ทำให้เกิดอาการปวดท้องฉับพลันรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดฉุกเฉิน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยขั้นต้นจากอาการ จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจภายในช่องคลอด พบก้อนเนื้องอกและอาจต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวนด์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ใช้กล้องส่องตรวจช่องท้องหรือโพรงมดลูก ตรวจชิ้นเนื้อ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็ก อาจไม่ต้องทำอะไร และจะนัดไปตรวจทุก 6-12 เดือน ในผู้หญิงที่มีอายุ 45
ปีขึ้นไปหรือหลังวัยหมดประจำเดือน ก้อนเนื้องอกอาจยุบลงได้เอง เนื่องจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโทรเจน (ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้เนื้องอกเจริญ)

2. ในรายที่มีเลือดออกกะปริดกะปรอย แพทย์จะทำการขูดมดลูกและส่งตรวจชิ้นเนื้อ (เพื่อแยกสาเหตุจากมะเร็ง) ให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อควบคุมภาวะเลือดออกและอาการปวดท้องน้อย หากหยุดยาก็จะมีเลือดออกได้อีกและยานี้อาจทำให้เนื้องอกโตขึ้นได้

3. ถ้าก้อนมีขนาดโต แพทย์อาจให้ยาเพื่อทำให้ก้อนเนื้องอกเล็กลง และบรรเทาอาการปวดท้องหรือเลือดออก ซึ่งเป็นการรักษาชั่วระยะหนึ่งก่อน ยาที่ใช้รักษา เช่น ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (อาจให้เดี่ยว ๆ หรือร่วมกับโพรเจสติน)

บางรายแพทย์อาจให้ยากระตุ้น gonadotropin releasing hormone ฉีดเดือนละครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ก้อนเนื้องอกเล็กลงเพื่อเตรียมพร้อมก่อนผ่าตัด ช่วยให้ผ่าตัดง่ายขึ้น ขณะและหลังผ่าตัดมีเลือดออกน้อย ช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น

4. การผ่าตัด จะเลือกทำในกรณีที่มีก้อนเนื้องอกโตมาก มีเลือดออกมาก ซีด ปวดท้องรุนแรง หรือมีอาการปวดท้องน้อยหรือปวดหลังเรื้อรัง หรือถ่ายปัสสาวะบ่อย จนไม่สามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ

ในรายที่เนื้องอกก้อนเล็ก หรือผู้ป่วยยังต้องการมีบุตร แพทย์จะผ่าตัดเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้องอกออกไป
ซึ่งในปัจจุบันสามารถใช้วิธีผ่าตัดโดยใช้กล้องส่องเข้าช่องท้อง (lapraroscopic myomectomy) หรือเข้าโพรงมดลูก (hysteroscopic myomectomy)

ในรายที่ก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่และไม่ต้องการมีบุตรก็จะผ่าตัดเอามดลูกออกทั้งหมด (hysterectomy) ซึ่งอาจใช้วิธีเปิดแผลเข้าหน้าท้องหรือทางช่องคลอด

ผลการรักษา หลังผ่าตัดมักจะหายขาดและไม่มีภาวะแทรกซ้อนตามมาภายหลัง


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีประจำเดือนออกมากหรือกะปริดกะปรอย ปวดประจำเดือนมาก มีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อย หรือปวดหลังส่วนล่างแบบเรื้อรัง หรือคลำได้ก้อนที่บริเวณท้องน้อยหรือมีอาการท้องโตคล้ายคนท้อง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกมดลูก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรหาทางป้องกันไม่ให้โรคกลายเป็นรุนแรงด้วยการดูแลรักษากับแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ

1. ผู้หญิงที่มีเลือดออกทางช่องคลอดนานกว่า 7 วัน อาจมีสาเหตุจาก ดียูบี เนื้องอกมดลูก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุมดลูก โรคเลือด เป็นต้น จึงควรไปตรวจที่โรงพยาบาลโดยเร็ว (ตรวจอาการเลือดออกทางช่องคลอด/ประจำเดือนออกมากกว่าปกติ/ตกเลือดระหว่างตั้งครรภ์เพิ่มเติม)

2. เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกธรรมดาไม่ใช่มะเร็ง เนื้องอกมดลูกส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ไม่มีอาการแสดง ไม่มีอันตรายใด ๆ และไม่จำเป็นต้องให้การรักษาแต่อย่างใด ส่วนน้อยที่มีอาการก็สามารถรักษาให้หายขาดได้

30
มอเตอร์เอ็กซ์โปร์: จี๊ป Jeep-Wrangler Rubicon 4 doors-ปี 2024
5,490,000 บาท 

จี๊ป Jeep-Wrangler Rubicon 4 doors-ปี 2024
Jeep Wrangler Rubicon 4 ประตู โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 270 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ผสานเพลาหลัง Danaแบบ Full Float Axle ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลากจูง กระจังหน้าแบบ 7 ช่องดีไซน์ใหม่ ทันสมัยและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กระจกบังลมหน้าแบบ Gorilla Glass ที่แข็งแกร่ง เบาะหนัง Nappa ปักโลโก้รูบิคอน ล้ำไปอีกขั้นด้วยเบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 12 ทิศทาง และ 8 ทิศทางสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่ผ่านการทดสอบการลุยน้ำแบบไร้ประตู  สะดวกสบายกว่าด้วยจอทัชสกรีน 12.3 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบนำทาง Uconnect 5 รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย เพิ่มความปลอดภัยด้วยถุงลมคู่หน้าและด้านข้างใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control with Stop & Go)

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์              Jeep
   รุ่น                   จี๊ป Jeep-Wrangler Rubicon 4 doors-ปี 2024
   ประเภทรถ          รถอเนกประสงค์ SUV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา               5,490,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
ล้อแม็ก (17")
ไฟตัดหมอก (หน้า-หลัง)
ระบบควบคุมระยะการจอด (ระบบช่วยเตือนเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหลัง)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (หลังคาด้านหลังถอดได้ หลังคาแข็งสีดำ 3 ชิ้น (Black 3-Piece Hard Top))
ไฟหน้า LED (แบบ Full LED Lighting Group)
ขนาดยางหน้า-หลัง (255/75 R17 Mud Terrain)

   ภายใน
เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
ภายในโทนสีดำ
กระจกมองหลังตัดแสง (อัตโนมัติ)
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (Rollover Protection Bars ภายในห้องโดยสาร, เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังพับได้ และยกออกได้ (Removable Rear Seats))
หัวเกียร์หุ้มหนัง

สเปค
   เครื่องยนต์                4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ
   ขนาดเครื่องยนต์ (CC)  1,995 CC
   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)  270 แรงม้า
   ระบบเกียร์               เกียร์ออโต้ 8AT
   รูปแบบเกียร์
   ระบบเบรค ABS         มี
   ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง  เบนซิน 95, เบนซิน 91, แก๊สโซฮอล์ 95 (E10)
   ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)   N/A
   ระบบจ่ายน้ำมัน            Direct Injection
   น้ำหนักตัวรถ                -
   ประเภทยางรถยนต์         -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน             ขับเคลื่อนสี่ล้อ Part Time

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย 

ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC)
ตัวถังนิรภัย
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
เซ็นทรัลล็อค
สัญญาณกันขโมย
กุญแจนิรภัย (กุญแจอัฉริยะ(Keyless Ignition))
ไฟเบรกดวงที่ 3
เข็มขัดนิรภัย
พวงมาลัยยุบตัวได้
กระจกนิรภัย
คานเหล็กเสริมนิรภัย
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HSA)
อื่นๆ (ระบบปรับสมรรถนะของระบบขับเคลื่อน, ระบบเช็คดูสถานะของตัวรถ, ระบบเช็คดูสถานะลมยาง)
กล้อง (กล้องแสดงภาพด้านหน้า Integrated Off-Road Camera และหลัง( Front and Rear Camera))

หน้า: [1] 2 3 4